X
Home Uncategorized ปริมาณพัสดุเพิ่ม ดัน KEX กำไรไตรมาสแรก 303 ล้าน

ปริมาณพัสดุเพิ่ม ดัน KEX กำไรไตรมาสแรก 303 ล้าน

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “KEX” รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2564 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นอย่างยาวนานและในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว KEX สามารถเพิ่มปริมาณการจัดส่งพัสดุด่วนได้สูงขึ้นถึง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยได้รับแรงหนุนจากการผลักดันการขายตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2564 KEX เดินหน้ายกระดับแพลตฟอร์มและระบบการจัดส่งพัสดุ เพื่อคุณภาพการบริการและประสิทธิภาพเครือข่ายของบริษัทฯ ที่เหนือกว่าผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ

สำหรับปี 2564 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาด KEX ได้เดินหน้ากลยุทธ์การกำหนดราคาเชิงรุกที่เข้มข้นขึ้น เพื่อตอบสนองการเติบโตของตลาดการจัดส่งพัสดุราคาประหยัด และเป็นการขยายการให้บริการเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ KEX สามารถรุกเข้าสู่ตลาดการจัดส่งราคาประหยัดและลดต้นทุนได้ต่อไป

จากผลประกอบการของ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มีรายได้จากการขายและบริการ 4,188 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 303 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจส่งถึงบุคคล (B2C) และการจัดส่งพัสดุแบบบุคคลส่งถึงบุคคล (C2C) เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยมีสัดส่วน 47.3% และ 50.8% ของรายได้จากการขายและบริการตามลำดับ  โดยรายได้ที่ลดลงประมาณ 13% นั้น มีปัจจัยหลักได้แก่ การปรับราคาต่อพัสดุเชิงรุกและการเจาะเข้าสู่กลุ่มตลาดการจัดส่งราคาประหยัด ทั้งนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบได้แก่ สถานการณ์ COVID – 19 ที่ยืดเยื้อยังคงส่งผลกระทบทางลบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคและกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ให้บริโภคมีความต้องการสั่งซื้อพัสดุที่มีมูลค่าและขนาดเล็กลง ประกอบกับมีการซื้อบริการเสริมน้อยลง นอกจากนี้ วันทำการในไตรมาส 1/2564 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563

ทั้งนี้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุ ทั้งในด้านการใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยวางเป้าหมายที่จะลดค่าใช้จ่ายลงอย่างต่อเนื่อง  อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 1/2564 เคอรี่ เอ็กซ์เพรสสามารถสร้างผลกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเพิ่มอัตรา EBITDA (กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และ ภาษีเงินได้) เป็น 23.4% จาก 22.3% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถรักษาฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีทรัพย์สินรวม 18,032 ล้านบาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ในปริมาณมาก โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 2.95 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.62 เท่า

เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จะยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความยืดหยุ่นและมีความคล่องตัวเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ รวมถึงพร้อมที่จะแสวงหาและไขว่คว้าโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน นอกจากการรุกเข้าสู่ตลาดการจัดส่งราคาประหยัดเพื่อส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น KEX ยังได้ปริมาณการจัดส่งจากลูกค้าภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสามารถรักษาฐานปริมาณพัสดุในปี 2564 ได้

อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX

นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX กล่าวปิดท้ายว่า เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังคงมุ่งยกระดับแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุเพื่อรองรับการบริการที่หลากหลายครอบคลุมทุกภาคส่วน เช่น  การบริการเข้ารับพัสดุแบบ Door-to-Door และบริการกลุ่มตลาดราคาประหยัด เป็นต้น รวมไปถึงปริมาณพัสดุที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากเครือข่ายที่มีอยู่ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยจุดให้บริการลูกค้า (customer touchpoints) และศูนย์กระจายพัสดุทั่วประเทศ  ยิ่งไปกว่านั้น เรายังคงเดินหน้าขยายเครือข่าย “Kerry Express Everywhere” อาทิ การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการกระจายธุรกิจเพื่อเข้าสู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของ KEX ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ จากกลยุทธ์ธุรกิจภายหลังการ IPO อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้

อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX
Previous articleเปิดใจ อาหนิง-นิรุตติ์ ฉีดวัคซีน โควิด-19 ร่วมมือสู้ ‘สงครามเชื้อโรค’
Next articleTCAP พร้อมเปิดธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน