Home ข่าวบันเทิง Stars Sabrina Carpenter ต่อยอดความสำเร็จอัลบั้ม “Man’s Best Friend” สู่เฮดไลน์เนอร์ Coachella 2026, คัมแบ็ก SNL สุดปัง...

Sabrina Carpenter ต่อยอดความสำเร็จอัลบั้ม “Man’s Best Friend” สู่เฮดไลน์เนอร์ Coachella 2026, คัมแบ็ก SNL สุดปัง พร้อมขึ้นปก Vogue Italia

เปิดประวัติ Sabrina Carpenter: จากสาวน้อยดิสนีย์สู่โกลบอลซูเปอร์สตาร์สุดฮอต

นาทีนี้คงไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า Sabrina Carpenter โกลบอลซูเปอร์สตาร์สาวพราวเสน่ห์ เจ้าของสองรางวัลแกรมมี่ ที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงที่ฮิตติดชาร์ต การแสดงภาพยนตร์และซีรีส์ที่น่าจับตามอง หรือล่าสุดกับการขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นระดับโลกอย่าง Vogue Italia เส้นทางของเธอจากเด็กสาวผู้มีความฝันสู่การเป็นศิลปินระดับโลกนั้นน่าสนใจไม่น้อย StarEnews จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น

ชมคลิป Sabrina Carpenter ในงาน Coachella 2024 ที่นี่
https://www.instagram.com/p/DOqsEawEYVI/?img_index=2

จากเพนซิลเวเนียสู่เส้นทางสายบันเทิง

Sabrina Annlynn Carpenter เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 1999 ที่รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เธอฉายแววความสามารถด้านการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มโพสต์วิดีโอคัฟเวอร์เพลงลง YouTube ตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ พรสวรรค์ของเธอโดดเด่นจนเข้าตาและได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Hollywood Records ในเครือ Disney เมื่ออายุเพียง 12 ปี

แจ้งเกิดจากบทบาท “Maya Hart” ในซีรีส์ดิสนีย์

ก้าวสำคัญที่ทำให้ Sabrina เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือการรับบท “Maya Hart” เพื่อนซี้ของตัวละครหลักในซีรีส์ยอดฮิตของดิสนีย์แชนแนลเรื่อง Girl Meets World (2014–2017) ซึ่งเป็นภาคต่อของซิตคอมยุค 90s อย่าง Boy Meets World ด้วยบทบาทที่โดดเด่นและมีเสน่ห์ ทำให้เธอได้รับความรักจากแฟนๆ ทั่วโลก และกลายเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตามองในทันที

เส้นทางสายดนตรีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ควบคู่ไปกับงานแสดง Sabrina ก็ไม่เคยทิ้งความฝันในการเป็นศิลปิน เธอปล่อยเดบิวต์ซิงเกิล “Can’t Blame a Girl for Trying” ในปี 2014 ตามมาด้วยสตูดิโออัลบั้มแรก Eyes Wide Open ในปี 2015 หลังจากนั้นเธอก็มีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Evolution (2016), Singular: Act I (2018), Singular: Act II (2019) และ Emails I Can’t Send (2022) ซึ่งแต่ละอัลบั้มแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางดนตรีและตัวตนที่ชัดเจนขึ้นของเธอ

ผลงานการแสดงที่หลากหลาย

นอกเหนือจากบทบาทที่สร้างชื่อใน Girl Meets World แล้ว Sabrina ยังมีผลงานการแสดงอีกมากมาย ทั้งในภาพยนตร์และซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ทาง Netflix เรื่อง Tall Girl (2019) และภาคต่อ Tall Girl 2 (2022) รวมถึง Work It (2020) ที่เธอนั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย เธอยังได้แสดงฝีมือบนละครบรอดเวย์ในบท “Cady Heron” จากเรื่อง Mean Girls ในปี 2020 อีกด้วย

ความสำเร็จระดับโลกและผลงานล่าสุด

ในปี 2024 ถือเป็นปีทองของ Sabrina อย่างแท้จริง เมื่อเธอปล่อยซิงเกิลสุดฮิตอย่าง “Espresso” และ “Please Please Please” ที่ทะยานขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของชาร์ตเพลงทั่วโลก ส่งผลให้อัลบั้มที่ 6 ของเธอ Short n’ Sweet ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย

ล่าสุด Sabrina สานต่อความปังด้วยอัลบั้ม Man’s Best Friend ที่เดบิวต์ในอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard 200 โดยมีเพลง “Tears” ที่ติด Top 10 US Pop Radio อย่างรวดเร็ว และเพลง “When Did You Get Hot?” ที่ฮิตติดกระแสไปทั่วโลก

ความฮอตของเธอยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ล่าสุดเธอได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue Italia ในลุคสวยหรูสไตล์วินเทจ และยังกลับไปเป็นพิธีกรและแขกรับเชิญในรายการดังอย่าง Saturday Night Live อีกครั้ง

และอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่สร้างความยินดีให้กับแฟนๆ คือการประกาศว่า Sabrina Carpenter จะได้ขึ้นเป็นหนึ่งในศิลปินเฮดไลน์เนอร์ของเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ในปี 2026 ร่วมกับ Justin Bieber และ Karol G ซึ่งถือเป็นความฝันที่เป็นจริงของทั้งตัวเธอและแฟนเพลง หลังจากที่เธอเคยพูดติดตลกบนเวที Coachella 2024 ไว้ว่า “Coachella, see you back here when I headline.” และแน่นอนว่าบัตรคอนเสิร์ตก็ขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว

จากเด็กสาวมากความสามารถ สู่การเป็นศิลปินระดับโลกที่ครบเครื่องทั้งการร้อง การแสดง และการเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ Sabrina Carpenter ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอคือดาวเด่นที่พร้อมจะเฉิดฉายในวงการบันเทิงไปอีกยาวนานอย่างแน่นอน

ฟังอัลบั้ม Man’s Best Friend ของ Sabrina Carpenter ที่นี่

https://SabrinaCarpenterTH.lnk.to/MansBestFriendPR

Exit mobile version