Home การตลาด WORKPOINT ปี 67 ขาดทุน 201.02 ล้าน รายได้โฆษณาลดลง! กลุ่ม TPOP สร้างกำไร...

WORKPOINT ปี 67 ขาดทุน 201.02 ล้าน รายได้โฆษณาลดลง! กลุ่ม TPOP สร้างกำไร 17.80 ลบ.

WORKPIONT ปี 2567 ขาดทุน 201.02 ล้านบาท รายได้โฆษณาโทรทัศน์-ออนไลน์ ลดลง! กลุ่ม TPOP สร้างกำไร 17.80 ลบ.

บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) หรือ WORK มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่เท่ากับ 201.02 ล้านบาท ลดลง 214.50 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1,591 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 13.48 ล้านบาท

รายได้:
บริษัทมีรายได้รวมตามงบการเงินรวมในปี 2567 (ไม่รวมรายได้อื่น) เท่ากับ 2,339.78 ล้านบาท ลดลง 79.34 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 3 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีรายได้รวม (ไม่รวมรายได้อื่น) ตามงบการเงินรวมเท่ากับ 2,419.12 ล้านบาท โดยบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงของแต่ละธุรกิจดังต่อไปนี้

รายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์
รายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์ประกอบด้วยรายได้จากการขายโฆษณาและโปรโมชันในช่วงเวลาต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ของบริษัท (“ช่อง WORKPOINT”) และช่องทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงรายได้จากการให้เช่าช่วงเวลาให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อออกอากาศรายการโทรทัศน์ในช่อง WORKPOINT, รายได้จากการรับจ้างผลิตรายการ และรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการไปยังต่างประเทศ
โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากรายการโทรทัศน์รวมเท่ากับ 1,643.78 ล้านบาท ลดลง 252.45 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 13 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีรายได้จากรายการโทรทัศน์รวมเท่ากับ 1,896.24 ล้านบาท ทั้งนี้ การลดลงของรายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์เป็นไปตามการลดลงของรายได้โฆษณาผ่านช่องทางโทรทัศน์และออนไลน์ เนื่องจากสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ในการขายโดยการเพิ่มสัดส่วนงานประเภทรายการรับจ้างผลิต รวมถึงการผลิตรายการตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า (Tailor-made) ส่งผลให้ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รับจ้างผลิตเพิ่มขึ้น

รายได้จากการรับจ้างจัดงาน
รายได้จากการรับจ้างจัดงานของบริษัทประกอบด้วยรายได้จากการจัดงาน Event ต่าง ๆ ทั้งที่เป็นการรับจ้างผลิตให้แก่บุคคลภายนอกและที่บริษัทจัดขึ้นเอง โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการรับจ้างจัดงานเท่ากับ 282.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 78 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีรายได้เท่ากับ 158.51 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากการจัดงาน Event ที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามทิศทางความต้องการของลูกค้าในการจัดงานเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการขายงานประเภท Event ควบคู่กับสื่อรายการโทรทัศน์ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้า โดยในปี 2567 บริษัทมีงานที่สำคัญ ได้แก่ ซีเจ มอร์, ไมค์ทองคำ ออนทัวร์ SS3, Tiktok Awards Thailand 2024 และงานกาชาด 2567 เป็นต้น

รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวที
รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีของบริษัทประกอบด้วยรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีที่บริษัทจัดขึ้นเอง และรายได้จากผู้ให้การสนับสนุนสปอนเซอร์โรงละคร ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวทีในปี 2567 เท่ากับ 323.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีรายได้เท่ากับ 291.44 ล้านบาท ในปี 2567 บริษัทมีการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566 โดยงานสำคัญที่บริษัทได้จัดขึ้นในปี 2567 ได้แก่ Mark Tuan : The Other Side Asia Tour 2024, นิทานหิ่งห้อย เดอะมิวสิคัล และคอนเสิร์ตคุณพระช่วยสำแดงสด THAIHUB เป็นต้น

รายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่น
รายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นของบริษัทในปี 2567 ประกอบด้วยรายได้จากการบริการพื้นที่โรงละครของบริษัท และรายได้จากการจัดหานักแสดงเป็นหลัก โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นเท่ากับ 89.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 23 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีรายได้เท่ากับ 72.94 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจัดหานักแสดงของศิลปินในสังกัด

ต้นทุน
ในปี 2567 บริษัทมีต้นทุนผลิตทั้งสิ้น 1,952.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีต้นทุนผลิตเท่ากับ 1,781.61 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนจากธุรกิจรับจ้างจัดงาน และต้นทุนจากธุรกิจการจัดคอนเสิร์ตและละครเวที เนื่องจากในปี 2567 บริษัทมีการจัดคอนเสิร์ตละครเวทีและงาน Event เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

กำไรขั้นต้น
ในปี 2567 บริษัทมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 387.75 ล้านบาท ลดลง 249.77 ล้านบาท หรือ ลดลงคิดเป็นร้อยละ 39 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ที่มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 637.52 ล้านบาท โดยการลดลงดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของกำไรขั้นต้นของธุรกิจรายการโทรทัศน์ และธุรกิจคอนเสิร์ตและละครเวที เนื่องจากการแข่งขันที่สูง

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ในปี 2567 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 703.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 8 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 654.28 ล้านบาท

กำไรจากกิจกรรมพิเศษ
• กำไรจากการได้มาซึ่งอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย จำนวน 17.80 ล้านบาท (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อที่ 4 การซื้อบริษัทย่อย)
• กำไรจากการซื้อสินทรัพย์จากการร่วมค้า จำนวน 8.83 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัทได้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จากผู้ถือหุ้นเดิม (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อที่ 4 การซื้อบริษัทย่อย)
ข้อความนี้ได้รับการแก้ไขคำผิดทั้งหมดเพื่อให้ถูกต้องและอ่านได้ง่ายขึ้น

Exit mobile version