หน้าแรก ข่าวบันเทิง “มายด์” น้ำตาท่วมจอ “โหนกระแส” เคลียร์หมดเปลือก! ปมร้อน “โตโน่-ณิชา-เพชร” + เอี่ยว “โต้ง ทูพี”

“มายด์” น้ำตาท่วมจอ “โหนกระแส” เคลียร์หมดเปลือก! ปมร้อน “โตโน่-ณิชา-เพชร” + เอี่ยว “โต้ง ทูพี”

161
0

“มายด์” เคลียร์หมด! แฉถูก “โตโน่” หลอก ขอโทษ “ณิชา” รับเคยคุยกับ “โต้ง ทูพี” ช่วงสั้นๆ หลังเลิกนางเอกดัง

StarEnews – กรณี “เพชร” อดีตแฟนของ “มายด์ พัชรบุษย์” ได้ออกมาแฉ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” นอกใจ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยซุ่มคบหากับแฟนของตัวเอง ถึงขั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน จับได้คาหนังคาเขาคาคอนโดที่ทั้งสองฝ่ายเดินลงมาด้วยกัน พร้อมคลิปเสียงหน้ารถที่ยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่

ล่าสุด รายการ โหนกระแส วันที่ 17 เม.ย. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 ได้สัมภาษณ์ “มายด์” ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวขอเคลียร์ทุกเรื่อง มาพร้อม “แก้ม” เพื่อนสนิท ซึ่งเป็นเจ้าของคอนโดดังกล่าว

มายด์รู้ใช่มั้ยการออกรายการโหนกระแสก็เป็นดาบสองคม?

มายด์ : ค่ะ

 

กังวลมั้ยคุณอาจถูกสังคมประณาม ด่าทอ?

มายด์ : หนูกังวลแน่ๆ ค่ะ แต่ว่าทุกวันนี้สังคมพิพากษาหนูไปแล้วโดยที่หนูยังไม่ได้พูดอะไรเลย ก็เลยรู้สึกว่า พอเหมือนเริ่มลามไปเรื่อยๆ หนูต้องออกมาพูดแล้วค่ะ

 

อาจชินใช่มั้ย ถ้าพี่ช้าไป 7 วิ อาจเป็นความเคยชินของหนู?

มายด์ : ปกติก็ไม่นะคะ (หัวเราะ)

 

มายด์รู้จักเพชรมานานแค่ไหน?

มายด์ : ประมาณ 6 ปีค่ะ ปลายปีนี้เข้าสู่ปีที่ 7 ค่ะ

 

คบหาเป็นแฟน หรืออยู่กินฉันท์สามีภรรยา?

มายด์ : ก่อนหน้านี้ก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเลย แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ อยู่ห้องเดียวกันค่ะ

 

หนูทำงานอะไร?

มายด์ : จริงๆ เป็นฟรีแลนซ์ค่ะ ทำหลายๆ อย่างเลย มีทั้งพริตตี้เอ็มซี เหมือนเป็นผู้ช่วย และมีธุรกิจของตัวเองค่ะ

 

ได้ดูเพชรสัมภาษณ์ มีอะไรอยากชี้แจงในมุมที่เพชรเขาพูด เขาบอกว่าอยู่กันมาไม่ได้เป็นแฟนแต่เป็นการอยู่กินร่วมกัน มีการซื้อรถร่วมกัน ใช้เงินร่วมกัน เหมือนคนเป็นผัวเมียกัน เพียงแต่ไม่ได้จดทะเบียน?

มายด์ : โดยรวมก็ประมาณนั้นค่ะ ก่อนหน้านี้เป็นแบบนี้มาตลอด ระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา รักกัน ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติเลยค่ะ แต่ด้วยการเวลาทะเลาะกันแต่ละครั้ง เขาเป็นคนค่อนข้างใจร้อนกว่าหนู ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าทะเลาะกันแรงๆ เขาเผลอบอกเลิกบ่อยมากๆ เมื่อไหร่เขาบอกเลิก แล้วใจเย็นลง ก็กลับมาง้อ แล้วกลับมาคืนดีกันตลอดเลยค่ะ จนต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา เราทะเลาะกันเหมือนปกติที่นานน้านจะทะเลาะกันที แต่เป็นทริปไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ของเขา แต่มีเพื่อนหนูไปด้วย แต่อะไรหลายอย่างสะสมมาเรื่อยๆ เราพยายามทำตัวปกติต่อหน้าเพื่อนๆ เขา แต่ระยะทาง จากพัทยาเข้ากรุงเทพฯ กว่าจะไปส่งเพื่อนโน่นนั่นนี่ ก็เกือบ 3 ชม. หนูใช้เวลาในการขับรถ คิดอย่างดี เหมือนที่คิดมาตลอดทุกๆ ครั้ง จนกลับถึงกรุงเทพฯ เราขอเขาคุย คุยกัน เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้หนูพูดเลยว่าหนูไม่ได้ใช้อารมณ์

 

ตรงกับไทม์ไลน์ที่เพชรพูด ว่าคุณบอกเลิกเขา?

มายด์ : ใช่ ก่อนหน้านี้เป็นเขาบอกเลิก แต่เราไม่เคยพูดก่อนเลย จนครั้งนี้แหละที่หนูพูด หนูคิดมาดีแล้ว และไม่ได้ใช้อารมณ์ บวกกับปัญหาของเราที่สะสมมาเรื่อยๆ ก็โอเค เป็นการบอกเลิก แต่เขาก็ขอโอกาส ซึ่งในการคุยกัน ตอนนั้นด้วยเหตุผลล้วนๆ หนูให้โอกาสเขาได้ แต่เราเริ่มไม่ไหวแล้วจริงๆ หนูให้โอกาสเขาได้นะ แต่หนูก็ให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน

 

สาเหตุที่บอกเลิกคืออะไร?

มายด์ : ปัญหาสะสมมาเรื่อยๆ เลยค่ะ ด้วยความที่หนูดูแลเขาแทบทุกอย่างเลย เพชรเขาตั้งใจทำอะไรสักอย่างจะตั้งใจมาก จนลืมโฟกัสทุกอย่างรอบตัวเขา ข้าวไม่กิน ไม่ได้โฟกัสอย่างอื่นเลย ถ้าทำงานก็อยู่กับงาน เราเห็นแบบนี้มาตลอด เราเป็นห่วงเขา ก็เลยดูแลทุกอย่าง เราขับรถให้ อาหารการกิน เรื่องใช้ชีวิตประจำวัน หนูทั้งหมด ก่อนเป็นหนูก็เป็นคุณแม่ แต่เมื่อไหร่คุณแม่เขาไม่อยู่ ก็จะเป็นหนู

 

คุณเป็นแม่เพชรอีกคนเหรอ?

มายด์ : ถ้าเพื่อนพูดเล่นๆ ก็ประมาณนั้นค่ะ (หัวเราะ) ก็ดูแลทุกอย่างเลย ซึ่งพอเป็นระยะเวลาที่เราอยู่กันมานาน เราอดห่วงเขาไม่ได้ เราดูแลเขาทุกอย่างจริงๆ เราให้โอกาสเขาได้ แต่ใจเราก็เริ่มไม่ไหวแล้ว หนูก็พูดกับเขาว่าถ้าเราไม่เลิกกันครั้งนี้ หนูกลัวว่าถ้านานไปกว่านี้จะแย่กว่านี้ อย่างที่บอกหนูไม่เคยบอกเลิกเลย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หนูบอก และไม่ได้ใช้อารมณ์ หนูคิดมาดีแล้ว

 

ขณะที่คนๆ นึงบอกเลิกคนๆ นึง เพชรขอโอกาสคุณ คุณก็มีคำพูดย้อนไปว่า ให้โอกาสได้ แต่ให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน คำนี้คุณพร้อมเปิดรับผู้ชายคนอื่น?

มายด์ : ใช่ มายด์ให้โอกาสเพชรได้ แต่เมื่อไหร่ที่เพชรใช้โอกาสตรงนี้สิ้นเปลืองอีก เขากลับไปเป็นเหมือนเดิม ไม่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ในเรื่องที่เราทะเลาะกัน หนูจะไม่ตามแล้วนะ หนูจะไม่เรียกร้องแล้วนะ หนูจะไปเลย แต่ว่าเราเป็นห่วงเขาค่ะ มันเลยอยู่ด้วยกันอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้หนูจะเฟดตัวเองออกมาเลย หลังจากคุยกันเขาโอเคขึ้นในระยะเดิม ไม่กี่วันเหมือนเดิม หนูก็แค่เฟดตัวเองออกมา หนึ่งกลับบ้านที่ใต้บ่อยขึ้น ไปห้องเพื่อนบ่อยขึ้น ไปหาเพื่อนๆ

 

คุณเป็นคนจังหวัดอะไร?

มายด์ : พัทลุงค่ะ

 

พ่อผมก็อยู่พัทลุง?

มายด์ : คุณแม่บอกแล้วค่ะ (หัวเราะ)

 

เขามีแช่ว่าน รู้จักมั้ย คนไปแช่ว่านกันเยอะ?

มายด์ : ใช่ค่ะ รู้ค่ะ (หัวเราะ)

 

แล้วยังไงต่อ?

มายด์ : พอเขาไม่สามารถทำให้ตัวเองทำตามที่พูดได้ เราคุยกันไว้แล้วว่าเราจะให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน ทุกปีเราจะเคาท์ดาวน์ด้วยกัน แต่ปีนี้ปีแรกที่เราไม่ได้เคาท์ดาวน์ด้วย แต่ด้วยความเราอยู่ด้วยกันมานาน ความเป็นห่วงของหนูยังมีอยู่แน่นอน ทุกอย่างเลยค่ะ หนูเป็นห่วงการใช้ชีวิตของเขา เขาสามารถทำงานทั้งวันโดยไม่ทานข้าวเลย มันเป็นความเป็นห่วงของหนูอยู่แล้ว กับเพื่อนหนูก็เป็นแบบนั้น

 

ทำไมบอกเลิกผู้ชายสักคน ถ้าจะขาดก็ต้องขาดเลย เมื่อวานเพชรก็เปิดไลน์บางอันที่พูดกัน ยังมีที่รัก อยากกลับไปกอดอยู่เลย ไม่ใช่วิสัยคนหมดใจหรือเปล่า เหมือนเลี้ยงความรู้สึกเขาอยู่?

มายด์ : ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา มีแต่หนูที่คอยโทร คอยทัก คอยรายงาน โดยเขาไม่ต้องถามเลย แม้กระทั่งหนูกลับบ้านหรือไปไหนนานๆ อาทิตย์สองอาทิตย์ หนูเคยกลับบ้านสามอาทิตย์ โดยเราไม่ได้เจอ เราคุยกันน้อยมากๆ แต่ละวันเขาแทบไม่ทัก ไม่โทร มีแต่เราที่โทรอย่างเดียว พอช่วงระยะเวลาใกล้จะจบจริงๆ ใกล้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ เขาจะทัก จะโทร จะพิมพ์ทั้งวันในช่วงสองสามวันนั้น เราคิดแล้วว่าเขาแปลกๆ แต่แค่ไม่คิดว่าเขาจะทำขนาดนี้ ไม่คิดว่าเขาจะเอาแชตพวกนี้มาเป็นหลักฐานอะไรก็แล้วแต่ในความเป็นเขา แต่เราก็ตอบตามที่เขาถาม เวลาทะเลาะกันหรืออะไรกัน เขาเป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อน มันเคยถึงขั้นเขาทำร้ายตัวเอง ต่อยกำแพง เขาไม่เคยทำร้ายหนูค่ะ แต่แค่เขาทำร้ายตัวเองเราก็เป็นห่วงเขาแล้ว ทุกครั้งที่มีปัญหาเราจะใช้วิธีการเรากอดก่อนให้ทุกอย่างเย็นลง หนูเป็นคนที่ชอบใช้ภาษากาย โอเค เดี๋ยวเราค่อยคุย เรากอดก่อน

 

คุณกลัวเขาเจ็บมือ เขาไปต่อย กลัวเขาเจ็บ?

มายด์ : เป็นห่วงเขามากๆ กลัวเขาเจ็บ กลัวเขาร้องไห้ กลัวเขาเจ็บตัวด้วย

 

ไม่กลัวเขาเจ็บใจเหรอ?

มายด์ : (หัวเราะ) อย่างที่บอก เราเคยบอกเลิกแล้ว ครั้งนั้นครั้งแรกและครั้งเดียว เรามีการคุยกันแล้ว ประมาณนั้นค่ะ

 

ตอนนี้คุณโดนสองเด้ง เด้งแรกคุณผิดกับณิชา เด้งที่สองคุณผิดกับแฟนคุณ สังคมมองแบบนี้ คุณพยายามชี้แจงว่าความรู้สึกไม่ได้อยู่กับเพชรแล้ว 7 ปีทำให้เขาตลอดเวลา ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ไม่เคยได้รับเลย จนวันนึงฟิวส์ขาด คุณเลยพยายามบอกเลิกเขา เพชรขอโอกาส คุณก็ให้โอกาส แต่คุณก็เปิดโอกาสให้ตัวเองเหมือนกัน สถานะเรียกว่าแฟนได้มั้ยล่ะ?

มายด์ : ความที่หนูไม่ได้บอกทุกคนว่าเราเลิกกันแล้วนะ ไม่ได้บอกออฟฟิเชียลว่าเฮ้ย ฉันโสดอะไรขนาดนั้นกับคนรอบตัว มีเพื่อนสนิทที่รู้ ไม่ได้ป่าวประกาศในโซเชียลว่าฉันโสด

 

สถานะเรียกว่าแฟนได้มั้ย?

มายด์ : ก็อาจไม่ได้เลิกกันขาดค่ะ

 

เพชรมีสิทธิ์คิดได้มั้ยว่ายังเป็นแฟนเขาอยู่?

มายด์ : ถ้ามุมมองของเขาก็ได้ค่ะ เพราะเราบอกเขาไปว่า ถ้าเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่สามารถปรับปรุงในสิ่งที่เธอมีปัญหาได้ เราให้โอกาสเธอแล้วนะ แต่เราให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน

 

แล้วคุณคิดว่าเพชรเป็นแฟนอยู่มั้ย?

มายด์ : ใจเราก็ไปตั้งแต่วันนั้นแล้วค่ะ เพียงแต่ว่าเราก็ยังหวังให้เขาปรับปรุง แต่เขาทำไม่ได้ ช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งเราแค่ไม่ได้อัปเดตความรู้สึกกันว่า เธอ เราไม่ไหวแล้วจริงๆ จนวันนึงหนูไม่เหลือแล้วจริงๆ หนูถึงบอกเขา แล้วมันก็เลยมีปัญหา

 

คุณเจอคุณโตโน่ ตกลงผู้จัดการเอาเข้ามาหรือเขาเรียกคุณไปทำเอง?

มายด์ : พี่โตโน่เป็นคนชวนหนูไปค่ะ

 

มองคนละมุม เพชรมองว่าเป็นแฟนเขา แต่มายด์มองว่าขาดแล้วตั้งแต่พ.ย. คุณก็ให้โอกาสคนอื่น คุณพูดกับเพชรแล้ว?

มายด์ : พูดแล้วค่ะ อย่างที่หนูบอก เขาโฟกัสได้แค่อย่างเดียว ไม่ว่าเขาพูดอะไรไปก็แล้วแต่ เขาไม่ได้ฟังเราทั้งหมด เราไม่ค่อยฟังเราให้ครบ ประมาณนั้นค่ะ

 

เมื่อวานเขาเปิดไลน์ มีการส่งกันไปมาตลอด เขาเป็นการยืนยันว่ายังมีการคบหา เรียกที่รัก ตรงนี้แหละที่เขารู้สึกว่าถ้ามายด์ไม่ได้คิดว่าเป็นแฟน จะส่งแบบนี้มาทำไม?

มายด์ : อาจด้วยความเคยชิน หนูคบกับเขามาระยะเวลาค่อนข้างนานสำหรับหนู 6-7 ปี สรรพนามเหมือนเราติดในการเรียก ในการพูด รวมถึงสรรพนามอื่นๆ ก็เหมือนกัน เรายังใช้สรรพนามต่างๆ เรียกแทนกันเยอะแยะไปหมดเลย ก็เป็นการเรียกอยู่ แต่ความเคยชินเหมือนกันค่ะ เราไปไหนเราทำอะไร เราจะบอก เราถามเขาตลอด ถ้าดูตามระยะเวลา เขาไม่ได้ตอบหนูเป็นชม. ในการที่หนูถามว่าเล่นเกมหรือยัง หรือหนูถึงแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจเรา นั่นคือความเป็นเขา

 

ความสัมพันธ์คุณกับเพชร ในมุมของคุณเองจบแล้วตั้งแต่พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ที่ยังอยู่เพราะคือสิ่งที่จำเป็นต้องอยู่?

มายด์ :   ด้วยค่ะ

 

ไม่ได้โหดร้ายไปสำหรับเพชร หรือต้องยอมรับความจริงกันแล้ว?

มายด์ : ก็ใช่ด้วยค่ะ หลายๆ อย่าง เรื่องห้อง คอนโด ก็เป็นการที่เรายังอยู่ด้วยกัน เขาอยู่เป็นหลัก หนูทำงานบ้าง ไปห้องเพื่อนบ้าง กลับบ้านบ้าง หนูไม่ค่อยอยู่อยู่แล้ว ด้วยหลังๆ นะคะ แล้วเรื่องรถก็ทรัพย์สินของเขาค่ะ ส่วนใหญ่เขาจัดการโน่นนั่นนี่เองอยู่แล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นหนูค่ะ ในการแชร์ เรื่องค่ารถหลักๆ เป็นเพชร เพราะเป็นทรัพย์สินของเขา เขาออกรถมาเพื่อซัปพอร์ตงานของเรา แต่เราก็ช่วยกันแชร์ ช่วยกันในหลายๆ เรื่อง ในทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว

 

ทำไมกล้ามาออก?

มายด์ : มันไม่ใช่แค่เรื่องของหนูกับพี่โตโน่แล้ว ไปกันใหญ่ ขุดเรื่องเก่าๆ ทั้งจริงไม่จริง หนูรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปด้วย มันไม่ใช่เรื่องจริงซะเยอะค่ะ

 

พี่เซอร์ไพรส์มาก วันที่เกิดเรื่องใหม่ๆ เป็นช่วงสงกรานต์ ข่าวออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เสาร์-อาทิตย์ จริงๆ ผมได้ตัวเพชรอยู่กับผมตั้งแต่วันศุกร์แล้ว แต่ผมเก็บไว้ แล้วก็ได้เบอร์มายด์กับไลน์ ผมโทรไปหาเขา อยากฟังทุกมุมก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ผมพยายามคุยกับทุกๆ มุมก่อน ผมโทรหาผู้จัดการณิชา พยายามติดต่อฝั่งเมย์ ผู้จัดการโตโน่ คุยกับเพชรแล้ว และพยายามฟังเรื่องราวทั้งหมด ผมก็โทรหาอีกจิ๊กซอร์นึงคือมายด์ ผมโทรไปหลายครั้งไม่รับโทรศัพท์ผมเลย ผมเลยส่งไลน์ไปว่า มายด์ พี่หนุ่มนะ อยากฟังอีกมุมของหนู เขาไม่ตอบ ไม่อ่าน ไม่อะไรเลย จนสามวันก่อน มีไลน์ดังขึ้นมา ผมหยิบมาดู ปรากฎว่าไลน์มายด์ส่งมาว่าหนูพร้อมแล้ว จากนั้นผมก็นัดไปเจอเธอที่ร้านกาแฟชื่อนานา ที่ซอยอารีย์ ก็เจอเธอนี่แหละ แก้มก็ไป ผมถามว่ามายด์พร้อมมาออกมั้ย มายด์ลองตัดสินใจดู ไม่ได้บังคับ เธอบอกว่าอยากมาออก คุณรู้สึกว่าเรื่องเริ่มไปกันใหญ่?

มายด์ : ใช่ค่ะ ทั้งเรื่องไม่จริงเยอะแยะไปหมด อีกเหตุผลคือเรื่องนี้เพื่อนที่ไม่ได้รู้เรื่องด้วย เขาโปรเทคเราไม่ได้เต็มที่ แต่พอเรื่องไม่จริงเก่าๆ หนูเห็นทุกคนออกมาโปรเทคเรา หนูเลยรู้สึกว่าทุกคนพยายามออกมาเพื่อเราในเรื่องที่เขารู้ ทำไมเราถึงไม่ออกมา (เสียงสั่นเครือ) ที่หนูติดต่อช้าเพราะว่าหนูพยายามตั้งสติว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง มีคนติดต่อหนูมาเยอะมากๆ ค่ะวันนั้น ทั้งเพื่อน ทั้งนักข่าว เบอร์แปลกๆ พูดได้เลยว่า โห เป็นร้อยสาย เบอร์ไม่ซ้ำกันบ้าง หรือซ้ำกันบ้าง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไดเรกต์ก็แตก ไลน์แตก จนเราวางโทรศัพท์ห่างตัว วันนั้นเป็นวันที่หนูทำงานอยู่ด้วย พอมีเหตุเกิดขึ้น เหมือนเราทำงานอยู่ เราไปห้างๆ นึง เราเข้าห้องน้ำตอนค่ำๆ อยู่ดีๆ ออกจากห้องน้ำ สวนกับผู้หญิงคนนึง เขากระชากแขนเรา แล้วถามว่าใช่มายด์มั้ย หนูก็ตกใจด้วยค่ะ ด้วยความเป็นเวลางานของเรา หนูไม่อยากให้ไปกระทบอะไรเลย ก็เลยเอาตัวเองรีบออกมาจากตรงนั้น รีบโทรหาเพื่อนว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้นะ พี่ๆ เพื่อนๆ พร้อมมารับทันที เราก็คิดว่าทุกคนพร้อมซัปพอร์ตเรามากๆ

 

กับเพชรคุณหมดใจ ขอเลิกพ.ย. ความรู้สึกไม่เหลือแล้ว เพชรขาดตกบกพร่อง อย่างที่ผู้หญิงต้องการ คุณสายป่านขาด ไม่เอาแล้ว แต่จำเป็นต้องอยู่เพราะแคร์ความรู้สึกเพชร เขาเจ้าอารมณ์ รุนแรง ชอบทำร้ายตัวเอง แล้วไปรู้จักโตโน่ได้ไง?

มายด์ : ต้นปีที่แล้วค่ะ ช่วงเดือน มี.ค. ไปเจอกันในอีเวนต์นึง หนูเป็นพิธีกร เขาเป็นแขกรับเชิญ ตอนดีลงานกันก่อนขึ้นเวที เจ้าของร้านที่เขาติดต่อเราทั้งคู่มาทำงาน เขาไม่ได้ติดต่อผ่านเอเจนซี่หรืออะไรก็แล้วแต่ เขาดีลเองทั้งหมด เขาบอกว่าเขาพูดไม่เป็น ช่วยให้หนูพูดให้หน่อยว่าพี่โตโน่ทำอะไรได้บ้างในร้าน เพราะตอนเขาดีล ไม่สามารถเข้าร้านได้ จับสินค้าไม่ได้โน่นนั่นนี่ มีหน้าที่แค่ร้องเพลงให้สัมภาษณ์ตามเวลานี่ๆ แค่นั้น เขาให้หนูคุยว่าสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นมั้ย ซึ่งพอเราคุยกัน ทั้งพี่โน่และพี่เมย์น่ารักกับเรามากๆ ในวันนั้น  โอเค หยิบสินค้าได้ ถือของได้ ให้ลายเซ็นได้ กลายเป็นว่างานวันนั้นออกมาดีมากๆ ค่ะ

 

หลังจบงานเป็นยังไง?

มายด์ : หนูแท็กสตอรี่ไอจี

 

จำเป็นต้องแท็กเหรอ?

มายด์ : เวลาทำงาน ก็เหมือนโปร์ไฟล์เราเหมือนกัน เวลาทำงาน ลงสตอรี่ แท็กเพื่อนๆ หรือบุคคลที่ร่วมงานกัน เป็นปกติอยู่แล้ว แท็กทุกคนที่อยู่ในเฟรม ถ้ามีไอจีก็แท็ก ถ้าไม่มีก็ขอเลย แล้วแท็กไปเลย

 

ไม่กลัวเขาคิดมากเหรอ โตโน่คุณขอเขามั้ย?

มายด์ : ไม่ค่ะ เขาเป็นบุคคลสาธารณะอยู่แล้ว เราเลยแท็กไป

 

ไม่กลัวผู้ชายเขาคิดเหรอว่ามีใจหรือเปล่า?

มายด์ : หนูไม่ได้คิดแบบนั้นเลยค่ะ (หัวเราะ)

 

เป็นพี่ พี่คิดนะ อย่าเล่นกับเสือ อาจมีคนแบบนี้ อันนี้ไม่ใช่พี่นะ อาจมีแบบนั้น เสือนอนหลับอยู่มาแหย่เสือหลับเหรอ?

มายด์ : ด้วยความที่หนูไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ เราบริสุทธิ์ใจที่จะแท็กเขาไป เพราะว่าเป็นงานของหนูแค่นั้นเลย แล้วเป็นแค่สตอรี่เดียวที่เราแท็กเขาไป ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม ไม่ได้หลายๆ อัน หรืออะไรที่สื่อนอกเหนือจากงาน ไม่มีเลยค่ะในวันนั้น

 

โตโน่ถามว่าปกติงานยุ่งมั้ย คุณบอกว่าไม่ค่อยยุ่ง ถนัดว่างมากกว่า แต่กลางเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้าจะยุ่งนิดนึง เพราะเป็นแบรนด์แอมฯ ให้งานมอเตอร์โชว์ งานยาวเลย เขาถามว่าคิวนึงประมาณกี่บาท เคยสนใจการแสดงมั้ย มายด์บอกเคยเรียนการแสดงตอนมหา’ลัย หนูจบนิเทศฯ แต่ส่วนใหญ่งานอีเวนต์จะเข้าบ่อยกว่างานแสดง เขาบอกว่าหนูจบนิเทศฯ น่าสนใจ ถัดไปเขาถามว่าเรามีความคิดหาคนต่อบทก่อนเข้าฉากจริง เผื่อมายด์สนใจ แต่มายด์ลองเปรียบเทียบกับงานปกติก่อนนะ ว่าประมาณไหน เพราะคงไม่ใช้งบเยอะ มายด์บอกว่าพอได้ แต่คงส่งอารมณ์ไม่เก่งเท่าพี่ เรื่องงบไม่มีปัญหา ถือว่าได้ฝึกสกิลจากพี่ ปกติถ่ายจันทร์-พุธ เดี๋ยวจะคอยถามมายด์เผื่อมาได้ เป็นพิธีกรงานนึงได้กี่บาท  ทุกอย่างดีหมด เสียอย่างเดียว คุณเชียร์ลิเวอร์พูล คุณเชียร์ลิเวอร์พูลเหรอ อดีตแฟนคุณบอกเป็นจ่าฝูง พี่ก็จ่าฝูงนะ แต่ไม่ใช่พรีเมียร์ลีก แต่เป็นหมา ดูทรงแล้วเร็วๆ นี้แหละ ไปแหย่เขาก่อนหรือเปล่า การไปส่งแบบนั้น ผู้ชายคิดได้นะ?

มายด์ : แต่หนูไม่ได้คิดไงคะ (หัวเราะ) หนูคิดว่างานร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ไม่ได้คิดอะไร

 

เข้าใจมุมหนู หนูอาจไม่ได้คิดอะไรในการแท็กหาใครสักคน ถ้าเป็นผู้ชายทั่วไปคงไม่มีอะไร เขาอาจขอบคุณ แต่นี่ไม่ได้หมายถึงโตโน่นะ แต่ถ้าแท็กรูปไปหาผู้ชายบางคน มันปลุกเสือ มันหลับอยู่หนูไปปลุกมัน พอมันเห็นก็คำราม ผู้หญิงส่งแท็กมาให้ ก็อาจคุยกันต่อ หมาหยอกไก่ นี่ไม่ได้หมายถึงโตโน่ อาจมีบริบทแบบนี้เกิดขึ้นได้ สิ่งที่หนูทำ ยืนยันว่าคุยกับเขาแบบนี้ไม่ใช่การบริหารเสน่ห์?

มายด์ : ไม่ใช่แน่ๆ ค่ะ ทั้งกับเพื่อนๆ ผู้หญิง หนูก็คุยแบบนี้ค่ะ เลยคิดว่าไม่ใช่แน่ๆ

 

คุยครั้งนั้น จบแค่นั้นเลยมั้ย?

มายด์ : มียิบย่อย ทักมาบ้าง แต่สั้นๆ ไม่ได้ชวนคุยกันยาวๆ ค่ะ

 

ผู้หญิงบอกว่าผู้ชายคิดชั่วๆ หมดเลยเหรอ ไม่ใช่ๆ บางคน ต้องเข้าใจบางคนไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ก็จะมีบางคนที่คิด ผู้ชายคิดเข้าข้างตัวเองมีอยู่เยอะ แต่บางคนไม่ได้เป็นนะ แค่บอกให้ฟังว่ามีบางคนเข้าข้างตัวเองว่าผู้หญิงอาจมีใจ เป็นไปได้ ก็เลยมีการพูดคุยกลับ อย่าบอกว่าผู้ชายชั่วทุกคน ไม่ใช่ เหนื่อยใจจริงๆ หลังจากนั้นมีการคุยกันอีกมั้ย?

มายด์ : มีเล็กๆ น้อยๆ ถ้าหลังจากนั้นจริงจังเลยก็ต้นปีนี้แหละค่ะ ที่ผ่านมาเขาก็จะถามว่ามอเตอร์โชว์เสร็จหรือยัง งานเสร็จหรือยัง เราตอบไปก็จบค่ะ

 

โลกหมุนรอบตัวเธอ มันวนกลับมาอีกที เดือนไหน?

มายด์ : ม.ค. ปีนี้แหละค่ะ เขาทักมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย เหมือนถามสารทุกข์สุขดิบกัน หนูตอบไปว่าสบายดี เขาถามว่าว่างหรือยัง ว่างมั้ย มันเป็นช่วงต้นปีพอดีที่อีเวนต์ไม่ได้เยอะมาก เป็นช่วงหนูว่างพอดี

 

เขาทักมาก่อน?

มายด์ : ใช่ค่ะ

 

10 เดือน ฝ่ายชายทักมาอีกครั้ง ทำไมคุณถึงยอมไปทำงานกับเขา เป็นที่มานับหนึ่งในการเกิดเรื่อง ต้องให้ความเป็นธรรมกับเธอ หลายคนอาจบอกว่าทำไมเธอดูไม่สลดเลย ผมละลายพฤติกรรมเธอในการคุย ให้สบายตัวมากขึ้น ไม่งั้นเธออาจไม่กล้าพูดอะไรออกมา ขออภัยด้วยนะที่ต้องมีฟีลแบบนี้ มันเป็นการละลายพฤติกรรมของผมเอง เวลามีภาวะเครียดๆ จะได้คุยกันสบายๆ จะได้หลุดออกมาเยอะๆ?

มายด์ : บอกไปหมดแล้วค่ะ (หัวเราะ)

 

อย่างน้อยๆ มายด์รู้ว่าออกโหนกระแสก็โดนด่าแน่ๆ แต่ก็พร้อมที่จะมา อย่างน้อยยังกล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง พร้อมพูดให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้เปิดไป ก็บอกเธอเลย ไม่ต้องไปดูหรอกคอมเมนต์ ร้อยนึงแทบไม่มีสักหนึ่ง มีคนต่อว่าต่อขาน แต่ก็ชื่นชมที่คุณกล้าออกมาพูดความเป็นจริงให้ฟัง เป็นอีกมุมมองที่คุณอยากพูด ใครจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็สิทธิ์ของเขา หลังจากทุกอย่างเวียนกลับมา เข้าม.ค.ปี 68 เขาทักมา?

มายด์ : เขาถามสารทุกข์สุกดิบว่าเราสบายดีมั้ย เราก็ตอบกลับไปว่าสบายดี เขาก้ถามว่างานยุ่งมั้ยช่วงนี้ มันเป็นช่วงต้นปีแล้วยังว่างอยู่ เขาก็เลยชวนทำงาน ในพาร์ตสโมสร เขาน่าจะเห็นว่าเราดูบอลเหมือนกัน มันน่าจะเริ่มจากตรงนั้นค่ะ

 

ล่าสุดเขาบอกเกลียดแววตาหน่วงที่มองมายด์ กูผิดอีก กูสัมภาษณ์แล้วมองแขกรับเชิญแล้วผิดอีก?

มายด์ : พอแล้วค่ะ ดรามาหนูเยอะแล้วค่ะ (หัวเราะ)

 

ยังไงต่อ?

มายด์ : เขาชวนหนูไปทำงานในพาร์ตเลขาประธานค่ะ เขาส่งมาทางไดเรกต์ไอจีค่ะ

 

เขาชวนไปทำงาน บอกทำทุกอย่าง มายด์ขับรถได้มั้ย มายด์บอกว่าขับได้ เขาบอกเยี่ยมเลย งานไม่เยอะ แล้วลำบากมั้ย หรือมายด์อยู่ได้ เป็นห่วง มายด์บอกว่าพออยู่ได้ เขาบอก 17 ให้มารีบเขาไปเข้าฟิตเนส บ้านมายด์อยู่แถวไหน เหมือนคนทำงานร่วมกันปกติ จากนั้นเกิดอะไรขึ้น?

มายด์ : ก็ไปทำงานด้วยกัน ตอนแรกในพาร์ตเลขาฯ ไปที่สนามบอล ไปดูว่าเขาทำอะไรกันบ้าง พอเจอกันบ่อย สนิทกันมากขึ้น ก็ชวนไปทำพาร์ตอื่นๆ อย่างผู้ช่วยพี่เมย์ ก็ได้ไปช่วยหลายๆ ด้านของเขาค่ะ

 

การทำงานกับเขาต้องทำงานแบบไหน ตลอด 24 ชม. หรือช่วงเช้าออกห้าโมงเย็น?

มายด์ : ตามเวลางานของเขาเลยค่ะ ถ้าไปสนามจะเป็นหนูกับพี่เมย์ไปถึงสนามก่อน พี่โน่จะตามมาทีหลัง แต่ถ้าพาร์ตออกกองก็ไปตั้งแต่เช้า กองนัดกี่โมงก็ไปตอนนั้น แต่ละวันเวลาไม่เหมือนกัน ไม่ตรงกันสักวันค่ะ

 

อัตราค่าจ้าง บอกได้มั้ย เขาจ้างเป็นรายเดือนหรือรายวัน?

มายด์ : รายวันค่ะ ไม่ได้รับเป็นเงินเดือนค่ะ ไปวันไหนก็จ่ายวันนั้นค่ะ

 

คุณเมย์ทราบเรื่องมั้ย?

มายด์ : ทราบค่ะ เขาพาไปเจอพี่เมย์ หนูก็อันเดอร์พี่เมย์ เหมือนมีเจ้านายสองคน คือพี่โน่กับพี่เมย์ จะฟังจากสองคนนี้แต่จะติดพี่โน่เป็นหลัก

 

ตำแหน่งคุณคือตำแหน่งอะไร?

มายด์ : เลขาฯ พี่โตโน่และผู้ช่วยผู้จัดการคือพี่เมย์ เวลาสั่งงาน ทั้งคู่สั่ง แล้วแต่งาน ว่าต้องไปไหน แล้วทำอะไรบ้าง

 

ไม่ได้เมย์รับงานมาแล้วสั่งเหรอ?

มายด์ : ไม่ทั้งหมดค่ะ บางอย่างพี่โน่ดีลกับหนูเองโดยตรง ก่อนพี่เมย์ป่วยจะรับจากพี่โน่ พอช่วงที่พี่เมย์ป่วย หนูก็ไปดูแลพี่เมย์ซะส่วนใหญ่ตอนเขาป่วย ช่วงรักษาตัวพี่เมย์ไม่สามารถขับรถได้ ถ้าเมื่อก่อนวันไหนไม่เข้าสนามบอล ก็จะมีหนูกับพี่โน่สองคน แต่หลังๆ พอพี่เมย์ขับรถไม่ได้ ก็ไปด้วยกันสามคน หรือบางครั้งมีหลานเขาไปด้วย สามสี่คนตลอดค่ะ

 

ก็ดูเหมือนไม่มีอะไร ทำงานกันปกติ อำนาจสั่งงานอยู่ที่สองคน เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ทำหน้าที่อะไรบ้าง?

มายด์ : ทำทุกอย่างที่พี่เมย์ให้ทำค่ะ

 

ไม่ใช่แค่ต่อบทแล้ว?

มายด์ : ไม่ใช่ต่อบทค่ะ หลักๆ ขับรถให้ เวลาไปกองก็คอยซื้อของเตรียมว่าพี่โน่ต้องกินอะไรบ้าง ต้องใช้อะไรบ้าง คอยรับส่งพาไปโน่นนั่นนี่ เวลาเขาไม่อยากไปเอง หลักๆ ที่ขับรถให้เพราะพี่เมย์ไม่สามารถขับได้ เพราะผ่าตัดบอลลูนหัวใจ มือด้านขวาใช้ไม่ได้เลย

 

ปกติเขาไปทำงานยังไง?

มายด์ : น่าจะพี่เมย์ขับไปให้ค่ะ เหมือนกัน ตอนอยู่ด้วยกัน ส่วนใหญ่พี่เมย์รับสายตลอด หนูก็ขับรถ พี่โน่ก็ทำสมาธิก่อนไปทำงาน อย่างออกกองเขาเป็นคนอินกับบท ทำสมาธิให้ตัวเองเป็นตัวละครนั้น มีบางครั้งพี่โน่กับพี่เมย์ต้องแยกกันเพราะงานชนกัน พี่เมย์ก็จะไปเอง หนูต้องคอยรับส่งพี่โน่เป็นหลัก ไปกองหนูก็ต้องพาพี่โน่ไป พี่เมย์ก็ไปอีกงานนึง

 

ส่วนใหญ่พาเขาไปไหนบ้าง กองถ่าย งานคอนเสิร์ต สนามฟุตบอล สโมสร ส่วนใหญ่ไปประมาณแบบนี้?

มายด์ : ใช่ค่ะ

 

พูดง่ายๆ ก็ตลอด 24 ชม.?

มายด์ : ใช่ค่ะ ถ้าเขาเรียก

 

ถ้าเขาถ่ายหนังถึงตีหนึ่งตีสอง คุณก็ต้องอยู่ถึงตีหนึ่งตีสอง คุณบอกเพชรยังไง เพชรเขายอมให้ทำงานแบบนี้เหรอ?

มายด์ : ยอมค่ะ เป็นการปรึกษาว่าทำดีมั้ย เหมือนกันค่ะ หนูก็ปรึกษาเพื่อนๆ ปรึกษาคุณแม่ ปรึกษาคนรอบตัว เขาบอกว่าไปสิ น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ตรงกับสายที่เราเรียนมาด้วย จะได้เป็นอะไรใหม่ๆ สำหรับเราด้วย อย่างที่บอกหนูชอบทำงาน ชอบเวลาตัวเองยุ่งๆ อยู่แล้ว ก็น่าจะตอบโจทย์ ก็เลยไปทำ

 

เพชรมีหึงหวงมั้ย?

มายด์ : ไม่มีค่ะ หนูไปทำงานดึกๆ เขาก็ไม่ว่าไง เขาก็อยู่กับคอมพ์ฯ เขา เกมเขา เพื่อนเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าก่อนหน้านี้หรือช่วงหนูไปทำงานกับพี่โตโน่ เขาไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ไม่ได้ถามอะไร นานน้านจะถามที แต่พอเราไม่ได้รู้สึกขนาดนั้นแล้ว เราอาจยุ่งมากขึ้นด้วย เราก็ไม่ได้รายงานอะไร เขาก็ไม่ได้ตามค่ะ

 

ไม่ก้าวก่ายการทำงานซึ่งกันและกัน ก็เข้าใจได้ ตลอดระยะเวลาทำงานกับคุณโน่ คุณรู้มั้ยเขามีแฟนอยู่แล้ว?

มายด์ : ทราบค่ะ

 

รู้จักณิชามั้ย?

มายด์ : รู้จักค่ะ

 

เคยเจอมั้ย?

มายด์ : เคยเจอค่ะ แรกๆ เจอที่สนามฟุตบอลค่ะ แล้วเจอตอนอยู่บ้านพี่โน่บ้าง ตอนเราไปรับไปส่ง

 

เห็นความสัมพันธ์เขาสองคน คุณจะได้เห็นเขาใกล้ชิดกว่าคนดูทางบ้านด้วยซ้ำไป?

มายด์ : ค่ะ

 

คุณรู้ว่าเขาเป็นแฟนกัน?

มายด์ : ค่ะ

 

ตอนคุณเข้าไปทำงานกับคุณโน่ คุณไปสนามฟุตบอลบ่อย?

มายด์ : ค่อนข้างบ่อยค่ะ

 

คุณรู้จักกัปตันมั้ย?

มายด์ : รู้จักค่ะ

 

เขาจีบคุณ?

มายด์ : ตอนแรกบอกตรงๆ ไม่ทราบว่าจีบด้วยซ้ำ มันเป็นช่วงงานเกษตรแฟร์ เราก็ไปเป็นเอ็มวีให้กับบูธสโมสรกับสินค้าพี่โน่ เป็นการที่เขามาช่วยในทุกๆ วัน ซึ่งเราก็มองว่าน่าจะเป็นหน้าที่ของเขา ที่จะมีนักบอลมากันวันละ 5 คนทุกวันจนครบตลอดงาน แต่ความเขาเป็นกัปตัน เขาคงต้องมาบ่อยๆ ทุกวัน ก็เลยเจอเขาทุกวัน ตอนแรกไม่ทราบว่าเขาจีบ ไม่ได้อะไรเลย หนูแค่มาทำงาน ก็ใช่เขาซื้ออะไรให้กินตลอด วันแรกเขาก็สั่งมาให้กิน แต่สั่งให้คนอื่นด้วยนะคะ หรือบางวันคนไม่ได้เยอะ หรือไม่ได้เป็นเวลาตรงกับน้องๆ นักฟุตบอลมา เขาก็ซื้อให้หนูคนเดียว ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เวลาเขาไม่มาแล้วพี่เมย์มาที่บูธ พี่เมย์ก็จะให้หนูถามเขาตลอดว่าพี่บอลเข้ามั้ย พี่บอลเข้าตอนไหน หนูก็เลยตามให้ หนูคิดว่ามันเป็นหน้าที่ เพราะหนูได้รับคำสั่งจากพี่เมย์ หนูก็พิมพ์ไปถามเขาว่าพี่บอลคะวันนี้เข้ามามั้ยคะ พี่เมย์ฝากถาม เขาก็เข้ามาเกือบทุกวันเพราะมีช่วงที่เขาต้องซ้อมที่สนามด้วย

 

โน่เห็นตลอดเวลาว่ากัปตันจีบคุณอยู่ เขาพูดว่าไงบ้าง?

มายด์ : เขาก็มีแซวค่ะ ทักมาถามว่ามีหนุ่มมาเฝ้าเหรอ หนุ่มๆ เยอะนะ เขาพูดช่วงงานเกษตรแฟร์ ช่วงเดือนก.พ.

 

คุณตอบไปว่าไง?

มายด์ :   ตอบเป็นสติ๊กเกอร์ (หัวเราะ) หนูไม่ได้ชอบ เลยไม่ต้องการตอบหรืออะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนที่เขาขอไอจี ตอนแท็กสตอรี่ เราก็ให้ไป เพราะอย่างที่บอกมันเป็นงาน มันมีการแท็กกันอยู่แล้วในพาร์ตการทำงาน ก็มีพี่เขาไดเรกต์มาในวันนั้น แต่เราก็ไม่ได้อยากตอบ แต่เราต้องตอบหน่อยเพราะเราต้องทำงานด้วยกันอยู่หรือเจอกันอยู่ ก็ตอบตามที่จำเป็นต้องคุย

 

โน่เองรู้อยู่แล้ว เขามีการเตือนมั้ย?

มายด์ : นิดหน่อยค่ะ (หัวเราะ) มีบ้างว่าให้ดูดีๆ นะถ้าจะคุย ส่วนใหญ่เขาคบแต่เด็กนะ พี่ว่ามายด์ไม่น่าเหมาะกับพี่บอล เพราะมายด์ดูความคิดโตกว่านั้น ส่วนใหญ่พี่บอลคบแต่เด็กๆ งุ้งงิ้งประมาณนั้น

 

คุณอายุเท่าไหร่?

มายด์ : 30 ค่ะ

 

คุณพอวิเคราะห์ได้ใช่มั้ย ระหว่างเป็นห่วงกับหวงอยู่ใกล้กันมาก ไม่ได้หมายถึงโตโน่นะ ระหว่างเป็นห่วงกับหวง คุณแยกออกมั้ย?

มายด์ : ตอนนั้นหนูว่าหนูแยกออก เพราะเขามีแฟนไงคะ พี่โน่เขามีแฟน ก็คิดว่าเขาแค่เป็นห่วงเรา เราไม่ได้รับรู้ปัญหาหรืออะไรก็แล้วแต่ ในความสัมพันธ์ของใครก็แล้วแต่ คิดว่าเขาเป็นห่วง แต่พอมันเริ่มชัดเจนขึ้น หนูเพิ่งรู้วันวาเลนไทน์ว่าพี่บอลจีบ วันนั้นหนูไปออกกองกับพี่โน่พี่เมย์ อยู่ดีๆ ให้แมสเซนเจอร์มาส่งดอกไม้ที่กองถ่าย เราก็รับมางงๆ คิดว่าเป็นแฟนคลับพี่โน่ส่งมาให้ เพราะเขาไม่ได้บอกว่าเอามาให้ใคร บอกแค่ว่าเอามาให้มายด์ พี่บอลติดต่อทางพี่เมย์ ไม่ได้บอกอะไรเราล่วงหน้าเลย ตอนแรกเราไม่รู้เลยค่ะ พอเลิกกองก็เพิ่งทราบตอนพี่เมย์บอกว่าของมายด์ ไม่ใช่ของพี่โน่ ดอกไม้ช่อนี้ เราก็เลยคิดว่าอ๋อ โอเค งั้นคงจีบแหละ

 

พี่โน่เป็นห่วงใช่มั้ย?

มายด์ : อาจจะค่ะ (หัวเราะ) ตอนนั้นคิดว่าเป็นห่วงจริงๆ

 

ตอนหลังล่ะ?

มายด์ : (หัวเราะ) ตอนหลังมันก็นั่นแหละค่ะ

 

พี่ก็เสื-กแหละ พี่อยากรู้ คุณคิดว่าคำพูดนั้นไม่ใช่อาการคนเป็นห่วงแล้ว เป็นอีกแบบนึงแล้ว คุณมารู้ทีหลัง?

มายด์ : ก็..ค่ะ (หัวเราะ)

 

คุณเขินเหรอ?

มายด์ : ไม่ค่ะ แค่ต้องรื้อฟื้นความทรงจำหน่อยนึงค่ะ ถ้านึกได้ก็จะพูดค่ะ วันนี้ตั้งใจออกมาพูดความจริงทั้งหมดแหละค่ะ

 

เมย์-โน่ ถ้าดูอยู่ วันนี้ฝ่ายหญิงออกมาพูดแล้ว ถ้ารู้สึกว่าข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน สามารถติดต่อมาพูดในรายการได้ หรือส่งข้อความมา หรือโฟนอินมาก็ได้นะ หรือจะแถลงข่าว พูดคุยกับสื่ออื่นยังไงก็ได้ อย่างน้อยคุณมีสิทธิ์ปกป้องข้อเท็จจริง ถ้าหากคุณรู้สึกว่าถูกบิดเบือน หรือมายด์เองไปทีเล่นทีจริงกับคุณก่อน ไปอ่อยก่อน เปิดสะพานก่อนหรือเปล่า ก็เป็นมุมโน่ได้เหมือนกัน สุดท้าย ณ วันนี้บอกเลยทุกคนก็ต้องปกป้องตัวเอง เพราะโดนกันหมด พอเรื่องเกิดปุ๊บก็ไม่มีใครห่วงใครแล้ว ก็ต้องอยู่ในมุมตัวเองว่าต้องปกป้องตัวเองแบบนี้ๆ โน่มีสิทธิ์ชี้แจงว่ามายด์คิดไปเอง ไม่งั้นจะกลายเป็นฝั่งนี้พูดอย่างเดียว เขาก็มีสิทธิ์ตอบได้ คุณก็ต้องยอมรับถ้าวันนึงเขาอยากออกมาพูด คุณเริ่มรู้สึกแปลกๆ เมื่อไหร่จากผู้ชายคนนี้?

มายด์ : หลังช่วงวาเลนไทน์ เกษตรแฟร์จบ แล้ววาเลนไทน์ ก็เริ่มแปลกๆ ขึ้นเรื่อยๆ จากหน้าที่เราต้องดูแลเขา ต้องจดจำในสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ ทั้งพี่โน่และพี่เมย์ แต่พอระยะนึง ก็เหมือนเขาเริ่มถามกลับ อาจเป็นเพราะว่าสนิทกันแล้วในการทำงานก็เป็นได้ จากที่เราต้องคอยเทคแคร์เขา  1 2 3 ด้วยหน้าที่ เขาก็เทคแคร์กลับ แต่ตอนแรกหนูคิดว่าด้วยความที่เขาเป็นคนเทคแคร์ทุกคนอยู่แล้ว เราก็พยายามไม่คิดอะไรเลยค่ะ จนวันนึงอยู่ดีๆ นั่งอยู่ในรถนี่แหละค่ะ เขาก็พูดขึ้นมาว่าเขาชอบหนู

 

ใครพูด?

มายด์ : พี่โน่ค่ะ เขาบอกว่าชอบมายด์จัง

 

คุณแก้มเขินนะ?

แก้ม : (หัวเราะ)

 

มายด์ : เราคิดว่าชอบที่เราทำงานแหละ เราพยายามเรียนรู้ในการทำงานทุกอย่าง อาจยังช่วยพี่ๆ ไม่ได้เต็มร้อย แต่คิดว่าดีระดับนึงในการทำงานของเรา เขาคงชอบการทำงานของเรา ไม่ได้คิดว่าเขาชอบเราฉันท์ชู้สาว ช่วงกลางๆ ก.พ. นี่แหละค่ะ แต่หนูไม่ได้ถามต่อว่าชอบยังไง ชอบอะไร เพราะเขาไม่ได้พูดย้ำๆ ซ้ำๆ อยู่ดีๆ เขาก็พูดขึ้นมาลอยๆ เราได้ยิน แต่ไม่ได้ถามต่อ เราอยู่กันสองคนในรถ หลังจากนั้นก็พูดบ่อยขึ้น แล้วก็เวลาไม่ได้เจอก็ส่งมาบอกว่าคิดถึง

 

คุณรู้สึกยังไง?

มายด์ : ตอนแรกก็เอ๊ะ ยังไงกันแน่ ก็แปลกๆ แต่อย่างที่บอก เราอยู่ตรงนั้นด้วย เราเห็นเขาเกือบทุกวัน เขาน่ารักในพาร์ตที่เราเจอกันบ่อยๆ อาจมีการที่เขาน่ารักกับทุกคนรอบข้าง แต่รู้สึกว่าเขาเริ่มทรีตเราดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมากกว่าคนอื่น ก็เลยถามเขาตรงๆ ค่ะ

 

ไม่ได้ออกตัวแทนมายด์นะ มายด์เองตอนแรกที่คุยกับเขา เขาดูซึมเศร้าแหละ ดูอึนๆ มึนๆ แต่ผมก็พยายามคุยเพื่อให้เขาละลายพฤติกรรม ให้เขาพูดออกไปได้ หลายคนมองว่าทำไมไม่ยิ้มไม่สลด มันเป็นวิธีการของผมเองที่พยายามละลายพฤติกรรมผู้หญิงคนนี้ เพื่อไม่ให้ตอบคำถามเหมือนซังกะตาย หรือตอบแบบกั๊กๆ หรือกลัว ตอนแรกผมคุยกับเขา ดูทรงแล้วเหมือนผมก็น่าจะหาคำตอบจากเขาได้ยากเหมือนกัน ผมก็พยายามละลายพฤติกรรมให้เขาเหมือนคุยกับพี่คนนึง คุณผู้ชมที่รอฟังเขาอยู่ เหมือนเขารอเล่านิทานชีวิตจริงเขาให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนบอกทำไมไม่สลดเลย ทำไมยังหัวเราะอยู่ มันไม่ใช่หรอก มันเป็นวิธีการของผมเอง มันอาจทำให้น้องถูกว่าไปด้วย ผมก็กราบขอโทษด้วย ไม่งั้นเธอก็อาจไม่กล้าพูดออกมา อยากให้สบายๆ พิธีกรแต่ละคนก็แตกต่างกันไปเวลาคุยกับแขกรับเชิญ อันนี้คือวิธีการของผม ผมไม่อยากให้ดูสลด อยากให้เป็นแบบนี้ดีกว่า อยากให้สบายๆ?

มายด์ : ถ้าให้พูดเรื่องตัวเองหนูไม่เก่ง ส่วนใหญ่หนูเป็นคนฟังมากกว่าพูด เวลาพูดอาจไม่ได้ขนาดนั้น

 

คุณเอาเรื่องนี้ไปบอกเพชรมั้ย?

มายด์ : ไม่ได้บอกถึงขนาดนั้นค่ะ หนูรู้สึกว่าใจหนูก็ไม่ได้อยู่กับเพชรตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่มีการบอกเลิกกันไป แต่เรายังต่างคนต่างไม่ได้มีใคร ก็ยังอยู่ด้วยกันบ้าง แชร์โน่นนั่นนี่บ้าง สรรพนามที่หนูเรียกเขา หนูเรียกเพื่อนเหมือนกันนะคะ เรียกที่รักกับเพื่อนด้วย เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว มึงกูก็มีค่ะ เป็นคนเรียกหลายสรรพนาม ใช้คำว่าที่รักเป็นเรื่องปกติ

 

แต่คนอื่นไม่ปกตินะ?

แก้ม : ถ้าใครได้อยู่ใกล้ชิดพี่มายด์ แก้มยืนยันได้เลย พี่มายด์จะเรียกที่รัก จะติดปากเรียกว่าที่รัก ถ้าสำหรับคนอื่นที่รักอาจไม่ปกติ แต่ในมุมแก้ม และคนอยู่ที่คณะจะรู้ดีว่าถ้าที่รักของพี่มายด์ก็เป็นข้อเสียของพี่มายด์ด้วยว่าอาจทำให้คนเข้าใจผิดได้ ต้องมีการปรับคำพูด

 

อาจเป็นคำเฉพาะตัวที่พูดแบบนี้ แต่คนอื่นเขาไม่เข้าใจแบบนี้ เขาจะรู้สึกว่าเรียกที่รักมีความหมายพิเศษ หรือบางคนบอกว่าไม่เห็นจะเป็นไรเลย แต่ก็ทำให้คนคิดได้   คุณไม่ได้บอกเพชรหรือยังไง?

มายด์ : ในความเป็นพี่โน่ตอนนั้นไม่ได้บอกค่ะ กลัวมีปัญหาเรื่องงานด้วยหรือเปล่า เพราะคาราคาซังกับเพชรอยู่ แล้วไม่อยากให้กระทบกับงานที่กำลังโอเค ก่อนหน้านี้มันดีมากๆ เลยค่ะ ในการทำงานของเรา เลยไม่อยากให้กระทบความรู้สึกใครเลย เพชรก็เหมือนกัน ต่อให้เรายังไม่ได้จบหรือเคลียร์ความสัมพันธ์ แต่ครั้งนี้หนูพูดของหนูชัดเจนแล้ว แต่แค่ไม่ชอบในการพูดเรื่องเดิมๆ ย้ำๆ ซ้ำๆ มาตลอด ซึ่งเพชรเป็นคนที่ทำให้หนูต้องคอยพูดอะไรย้ำๆ ซ้ำๆ ซึ่งมันทำให้หนูไม่ชอบ เราแค่ไม่มีเวลาได้พูดกันแค่นั้นเอง เวลาเราอยากพูด เขาไม่ได้ว่างจะฟัง หรือสนใจที่จะฟังเรา เป็นเรื่องปกติของเขา

 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตคุณ เอาตรงๆ เป็นผม ผมก็สับสน ผู้หญิงที่ทำงานให้ผู้ชายคนนึง แล้วใกล้ชิดกัน เขาเป็นระดับซูเปอร์สตาร์ เรามีแฟนแต่เรามีปัญหากับแฟน เราหวั่นไหวเหรอ?

มายด์ : ก็ด้วยค่ะ เพราะเราเจอกันเกือบทุกวัน แล้วด้วยคำพูดที่เขาใช้กับเรา เหมือนคำว่าคิดถึง เมื่อไหร่เราไม่ได้ไปงานอะไรด้วย

 

คุณตอบเขาไปยังไง?

มายด์ : แรกๆ จะมีคิดถึงและฝันดี เราก็ตอบกลับไปแค่ฝันดีในช่วงแรกๆ แต่หลังๆ ก็เริ่มคิดถึงด้วยเหมือนกัน ด้วยความเขาพูดกับเราค่อนข้างน่ารักมากๆ สำหรับหนูนะ

 

ไม่ค่อยได้ยินคำนี้เหรอ?

มายด์ : อาจจะมั้งคะ เมื่อก่อนเพชรก็พูดบ้าง เพียงแต่เมื่อไหร่เราอยากฟัง เขาแค่ไม่พูด แค่นั้นเอง

 

สติ๊กเกอร์แบร่ เขาตอบว่าสวยจังครับ ทำไมอยู่ดีๆ มาชม?

มายด์ : ถ้าวันไหนไปมากกว่าสนามบอล หรือกองถ่าย ต้องแต่งตัวแต่งหน้า เขาก็จะชม

 

มันก็หวั่นไหว ผู้ชายระดับโตโน่มาชมเรา สวยจังเลยครับ ชื่นใจครับ อันนี้เริ่มๆ ใช่มั้ย?

มายด์ : ค่ะ

 

ยังไม่ได้ลึกซึ้งใช่มั้ย โน่บอกว่าให้เอาเอ็ม150 มาด้วย คุณถามเอาอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า โน่ตอบว่ามีมายด์ก็พอแล้วไม่ได้ต้องการอะไรเพิ่มอีก คุณบอกว่าปากหวานตลอดเลย เขาให้ดอกกุหลาบ บอกผมพูดจริง ทำจริงตลอด คุณแพ้อะไรแบบนี้?

มายด์ : อาจจะไม่ค่อยได้รับอะไรแบบนี้มาสักพักใหญ่ๆ มั้งคะ

 

เขาบอกว่าคิดถึงตลอด คุณปวดท้องประจำเดือน เขาถามว่าคุณคิดถึงมั้ย?

มายด์ : เหมือนช่วงนี้ปวดท้องประจำเดือน หนูเป็นคนที่ถ้าปวดท้องหนูจะไม่กินอะไรเลยทั้งวัน วันนั้นไปทำงานด้วยกัน ไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน เหมือนมีการถามในรถ พี่เมย์ก็อยู่นะคะ พี่เมย์ถามว่าไม่หิวเหรอ แล้วกินอะไรได้บ้าง ช็อกโกแลตกินได้มั้ย หนูบอกว่าได้ ถ้าเป็นช็อกโกแลตหนูกินได้ หลังกลับจากทำงานวันนั้น เขาก็ไปหาซื้อช็อกโกแลตแล้วเอามาให้ ซึ่งอะไรแบบนี้เราไม่เคยได้รับจากใคร

 

มองเป็นพี่ชายได้มั้ย?

มายด์ : ตอนนั้นไม่น่าได้แล้วค่ะ เขาไม่น่าคิดกับหนูแค่น้องสาวแล้วค่ะ

 

เราล่ะ?

มายด์ : ก็รู้สึกดีแล้วด้วยค่ะ เขาเป็นคนที่ใส่ใจดีเทลอะไรพวกนี้เยอะมากๆ อย่างเดินผ่านอะไรสักอย่าง แค่หันไปมอง หรือพี่เมย์บอกว่ามายด์ชอบอันนี้ วันไหนที่ไปด้วยกันสองคน เขาก็จะกลับมาพร้อมสิ่งนั้น สิ่งที่เราเคยมอง หรือเราเคยชอบ หรือพี่เมย์บอกว่าเราชอบ เขาจะเอามาให้เสมอๆ ตอนแรกๆ ก็บอกว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ หนูก็บอกเขา เพราะไม่งั้นหนูจะห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ เดี๋ยวหนูคิดไปเองโน่นนั่นนี่ เมื่อไหร่ที่ถามเขาก็บอกว่าเขาอยากทำให้ เขาตั้งใจให้

 

เรื่องผิดถูกวันนั้นไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวเขาเองสัมผัสมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้น บอกก่อนล่วงหน้า มันทำลายชีวิตคุณ ทำลายชีวิตเพชร ทำลายชีวิตโตโน่ และโคตรทำลายความรู้สึกและหัวใจของณิชา สิ่งที่เปิดไปทั้งหมด คุณรู้สึกว่าดีแล้ว วินาทีนั้นมีณิชาสักเสี้ยวนึงของความคิดคุณมั้ย?

มายด์ : มีค่ะ ก่อนที่จะรู้สึกมีเขาเสมอ และหนูก็จะถามพี่โน่เสมอว่าพี่โน่มีแฟนแล้วนะ

 

คุณบอกเขาเหรอ?

มายด์ : ค่ะ หมายถึงพี่โน่มีแฟนแล้ว เขาก็บอกปัญหาเขาสองคนให้ฟังบ้างเรื่อยๆ ทั้งตอนเราอยู่ด้วยกันสองคน ทั้งตอนที่มีพี่เมย์อยู่ด้วย

 

สิ่งที่คุณจะพูดจากนี้ไป เบิ้ม ณิชา สิ่งที่เขาจะพูดอาจทำร้ายความรู้สึกของหนู อันนี้พี่ขอโทษ แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้เขาก็จำเป็นต้องพูด เพราะเป็นมุมมองของเขา พี่เข้าใจความรู้สึกณิชามาก มันอาจทำให้หนูหัวใจแตกสลาย ขอโทษณิชาจริงๆ พี่ก็ลำบากใจ แต่ก็เชื่อว่าเป็นสิ่งที่เธอจำเป็นต้องพูด อีกอย่างความเจ็บปวดนี้จะยิ่งทำให้หนูโคตรแข็งแกร่ง หนูต้องฟังและรับมันให้ได้ ชีวิตยังอีกยาวไกล?

มายด์ : เขาเล่าปัญหาคู่เขาให้เราฟังอยู่เรื่อยๆ มันก็มีทั้งตอนที่เราอยู่ด้วยกัน แรกๆ หนูก็คิดว่าเขาจะพูดอะไรก็ได้ เพราะเราฟังจากฝั่งเขาอย่างเดียว แต่ทีนี้เคยมีที่เราอยู่ด้วยกันสามคน มีหนู พี่โน่ พี่เมย์ อยู่ในรถ อยู่ดีๆ พี่โน่ก็พูดมาว่า พี่เมย์ครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา แต่เป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ หนูก็เริ่มรู้สึกแล้วแหละว่าทำไมเขาถึงพูดตอนที่เราอยู่ หนูก็แอบกังวลว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับหนูหรือเปล่า แต่เขาก็พูดขึ้นมาว่า เขาคิดกับณิชาแค่น้องสาว เขาไม่ได้รักณิชาแล้ว ซึ่งพี่โน่บอกหนูว่าเขาไปแช่ว่านมา ไม่สามารถพูดโกหกได้ วันนั้นเป็นวันที่หนูเชื่อเขาสนิทใจเลยค่ะ เพราะพี่เมย์อยู่ด้วยเป็นการปรึกษากับพี่เมย์ มันคือวันที่หนูเชื่อเขาจริงๆ สุดใจเลย เพราะพี่เมย์ตอบกลับไปตอนนั้น ก็ยิ่งทำให้หนูเชื่อเข้าไปอีกค่ะ

 

มันทำให้คุณรู้สึกว่ามันคือโอกาสที่เป็นไปได้ระหว่างคุณกับฝ่ายชาย?

มายด์ : มันรู้สึกว่าความรู้สึกของเรามันคือความจริงมากกว่าค่ะ แสดงว่าสิ่งที่เขาทำกับเรา มันคือเรื่องจริงใช่มั้ย หนึ่งที่เขาบอกว่าเขาโกหกไม่ได้ สองเขาพูดต่อหน้าพี่เมย์ นั่นคือสิ่งที่ทำให้หนูรู้สึกว่า งั้นที่พี่บอกหนูมันคือเรื่องจริง

 

มั่นใจได้ยังไง สิ่งที่เขาพูดอาจถูกสร้างขึ้นมาก็ได้ ที่คุณเชื่อเขา เพราะคุณอยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดเองหรือเปล่า เพราะเรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ มันเป็นการคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า?

มายด์ : แรกๆ อยู่ด้วยกันสองคน เวลาเขาพูด เราจะมีความรู้สึกนึงว่าไม่น่าจะใช่ ไม่น่าจะจริงมาตลอด จนเขาปรึกษาพี่เมย์ต่อหน้าเรา บวกกับคำตอบพี่เมย์ในวันนั้น ที่เขาตอบว่าพี่รู้สึกได้ สัมผัสได้มาสักพักแล้ว ก็รู้สึกว่ามันก็น่าจะจริงแหละ

 

มันก็ไม่ยุติธรรมกับณิชา?

มายด์ : ค่ะ

 

ณิชาไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเหล่านี้เลย อยู่ดีๆ เธออาจถูกเอาไปแอบอ้างพูดแบบนี้ ไม่เป็นธรรมกับเ.ธอเลย แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?

มายด์ : หลังจากนั้นหลายวันอยู่ค่ะ มีช่วงที่หนูอยู่กับพี่เมย์ในรถสองคน ไม่ได้มีพี่โน่ พี่เมย์ชอบเล่าการทำงานในช่วงที่ผ่านมาให้ฟัง หนูก็ชอบฟังอยู่แล้ว เขาบอกว่ามีครั้งนึง หนูไม่แน่ใจนะ ตอนแรกเขาเล่าให้หนูฟังทำไม เขาบอกว่าเขาเคยชอบคนมีแฟนแล้ว แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นมีแฟนแล้ว และมาชอบเรา เขาต้องไปจบกับคนของเขาก่อน เขาต้องมั่นใจก่อน ถ้าเขาชอบเราจริงๆ ก็ต้องจบกับคนของเขาได้ รักเรามากพอ ก็ต้องไปจบกับคนของเขาก่อน เหมือนพี่เมย์กำลังบอกว่าเคยมีคนมีแฟนแล้วมาชอบพี่เมย์ ถ้าคุณชอบเรามากพอ ก็ต้องไปบอกเลิกแฟนคุณได้สิ ซึ่งเราก็จำ แล้วเราก็เลยถามว่า ความสัมพันธ์กับพี่ พี่ก็ต้องไปเคลียร์

 

บอกเหมือนคุณเมย์รู้อยู่นัยๆ?

มายด์ : ตอนแรกหนูพยายามไม่มองแบบนั้น ถ้ารื้อคลิปในรถไปถึงขั้นตรงนั้นได้ ก็มีแน่นอน

 

มันหมายถึงอะไร?

มายด์ : ทำให้หนูจำว่าถ้าเขารู้สึกกับเราจริงๆ พี่โน่ก็ต้องไปจัดการกับคนของตัวเองให้ได้ พอเรามาคุยกัน มีครั้งนึงหนูไปส่งเขาที่บ้าน ณิชาออกมาจากบ้านออกมาต้อนรับ เรารู้สึกอยู่ข้างใน ไม่กล้ามอง ไม่กล้าทักทาย เป็นหลังจากที่พี่โน่บอกชอบเราแล้ว หนูไม่กล้าเจอหน้าน้องเลยตอนนั้น เพราะไม่รู้ว่าเจตนาพี่โน่จริงหรือไม่จริงมากน้อยแค่ไหน หนูสับสน วันนั้นหนูเจอณิชา พอขับรถกลับไปที่ห้อง พี่โน่ก็มีการบอกว่าขอโทษนะกับการที่เจอณิชาแล้วทำให้หนูรู้สึกไม่ดี ไม่รู้ว่าณิชาอยู่ที่บ้าน ประมาณนั้น เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ตอนนั้นหนูก็สับสนกับตัวเอง ก็บอกว่าขอจัดการความรู้สึกตัวเองกันก่อน หลังจากนั้นหนูไม่แน่ใจว่าเขาไปพูดกันประมาณไหน แล้วมีวันนึงที่เขามาบอกหนูว่ามาคุยกับหนู หลังจากวันนั้นแหละค่ะ ว่าเขาขอคุยกับณิชาแล้วว่าเขาขอห่างจากณิชา เป็นการบอกหนู เป็นการคุยกันสองคน ถ้าถามเรื่องหลักฐาน หนูจริงใจกับเขาเสมอ ไม่เคยคิดแบล็กเมล์เขาเลย ไม่เคยอัดเสียง ไม่เคยตั้งใจอัดเสียง ไม่มีกล้อง ไม่มีอะไรเลย มันเป็นความจริงใจของเขา พอวันต่อมา หนูเห็นโพสต์นึงของณิชาประมาณว่าถึงเวลาดูแลหัวใจตัวเอง เมื่อคืนพี่โน่บอกว่าคุยกับณิชาแล้วขอห่างแล้ว อีกวันณิชาลงว่าถึงเวลาดูแลหัวใจตัวเองแล้ว ก็เลยเชื่อเข้าไปอีก

 

เชื่อสนิทใจว่า?

มายด์ : สองคนนี้ห่างกัน เขาบอกว่าเขาไม่สามารถเลิกกันเลยได้ หนึ่งแฟนคลับด้วย สองงานด้วย อีกไม่กี่วันอาจต้องไปทำงาน มีออกงานในรอบหลายปี เราก็แบบ โอเค นั่นแหละค่ะ ที่บอกว่าทำให้หนูเชื่อสนิทใจ เขาน่าจะเริ่มเคลียร์แล้ว

 

มันทำให้คุณมั่นใจว่าสองคนนี้เลิกกันแล้ว?

มายด์ : ค่ะ ที่พี่โน่บอกหนูคือเขาไม่ได้รักแล้ว เขาเห็นณิชาเหมือนน้องสาว เหมือนคนในครอบครัว ด้วยความอยู่ด้วยกันมานาน สองเขาขอห่างแล้ว นั่นคือสิ่งที่หนูเชื่อเขาได้สนิทใจเลย การที่เราอยู่ด้วยกัน การที่เขาเทคแคร์ ดูแลใส่ใจ เยอะแยะไปหมด วันที่เขาต้องไปหาหลานที่เชียงใหม่ที่ผ่านมา เขาก็บอกหนูว่าต้องไปหาหลาน ไปทำหน้าที่โน่นนั่นนี่ แล้วเขาบอกว่าเขาจะกลับมาหา แล้ววันนั้นเขาก็กลับมาหาหนู ซึ่งมันทำให้เราเชื่อเข้าไปอีก พอวันเขาออกงานคู่กันก็เหมือนกัน มันดูปกติ

 

เขาออกงานคู่กัน 23 มี.ค.ประมาณนั้น แล้วยังไง?

มายด์ : ก่อนเขาออกงานคู่กัน เขาไปเชียงใหม่รับขวัญหลาน พี่โน่กลับมาก่อนก็มาหาหนู จากนั้นวันสองวันเขาก็ไปออกงานคู่กัน เขาให้สัมภาษณ์เรื่องแต่งงาน เรื่องเซอร์ไพรส์ เขาบอกณิชาคงตามเขาไม่ทันหรอก ถ้าเขาจะเซอร์ไพรส์จริงๆ วันนั้นหนูก็งงว่ามันคือยังไงกันแน่ วันนั้นหนูไม่ได้ไปที่งานด้วย การคุยกันวันนั้นหนูถามคำตอบคำ ซึ่งเมื่อไหร่ที่หนูไม่โอเค เขาจะชู้ตหนูทันทีเลยค่ะ เขาจะแบบ เป็นอะไร โอเคมั้ย มาหาเราทันที หรืออีกวันมีการคุยกันเรื่องความรู้สึกตลอด เขาเทคแคร์ความรู้สึกเรา หนูก็เชื่อเขาสนิทใจเลย

 

คุณยิ่งมั่นใจว่าเขาเลิกกันแล้ว ก็เลยมีการคบหากัน?

มายด์ : รู้กันสองคน ก็ใช่ค่ะ โอเคนะคะถ้าสิ่งที่เขาพูดหรือทำเป็นเรื่องจริง จะให้เวลาหรือเคลียร์ ไม่จำเป็นต้องมาคบกับหนูเดี๋ยวนี้ ไม่มี ไม่ใช่ หนูไม่ได้ต้องการแบบนั้น

 

เป็นมุมคุณพูดฝั่งเดียว โน่ยังไม่ได้พูด ต้องรอโน่ชี้แจง คุณอาจพูดขึ้นมาเองเพื่อเอาตัวรอดหรือเปล่า ผมตอบไม่ได้ แต่โน่เองจำเป็นต้องพูด ผมว่าที่ผ่านๆ มา ก็เข้าใจแหละ โน่ก็ไม่ได้คิดออกมาพูดอะไรอยู่แล้ว แต่แบบนี้จำเป็นต้องพูด จะพูดที่ไหนก็ได้ จะแถลงข่าวเองก็ได้ แต่มันจำเป็น มันเป็นเรื่องความรู้สึกต่างๆ นานา เมื่อคืนคุณพุทธแกพูดคำนึง แกบอกเป็นเรื่องศีลธรรม ผมลืมคำนี้ไปเลย เป็นเรื่องที่ถูกนะที่คุณพุทธพูดแบบนี้ การเป็นนักแสดง ศิลปิน อยู่ในสังคม เป็นคนสาธารณะ ยิ่งหน้าสื่อคุณดูแลช่วยเหลือการกุศล มันจำเป็นต้องมีในมุมศีลธรรม ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นประเด็นค่อนข้างละเอียดอ่อน เป็นผลพวงถึงงาน อนาคตโน่เองด้วย ออกมาชี้แจงก็ได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง ถ้ามันใช่ก็แสดงความรับผิดชอบ ด้วยวิธีไหนก็ว่าไป ถ้าไม่ใช่ก็ออกมายืนยันข้อเท็จจริงว่าไม่ใช่ ทำไมวันนี้ออกมาพูดอะไรแบบนี้?

มายด์ : ตอนแรกหนูไม่ได้ตั้งใจออกมาพูดด้วยซ้ำ แต่อย่างที่บอกทุกคนโปรเทคเรา ทำไมเราไม่ออกมาปกป้องตัวเองบ้าง เรายอมให้คนว่าคนด่า และคุกคามด้วย ไปถึงที่บ้านหนู ไปถึงบ้านเพชร หนูคิดว่าหนูไม่ควรนิ่งแล้ว มันไปกันใหญ่ เยอะแยะไปหมด หลายความรู้สึก หนูใช้เวลาตั้งสติหลายวันนะคะ จนคิดว่าโอเค เราควรพูดได้แล้ว

 

มุมนึงจะบอกว่าคุณเองก็โดนหลอกเหมือนกัน?

มายด์ : ตอนแรกหนูอินกับเขามาก จนมีครั้งนึงเราไปทำงานด้วยกัน พี่โน่กำลังเฟลหรือนอยด์ เสียใจอะไรบางอย่างอยู่ ตอนนั้นเขาต้องให้สัมภาษณ์ หนูยืนอยู่กับหลานเขา บอกว่าอาโน่เก่งจังเลยเนอะ เก็บความรู้สึกเก่งมากเลย หลานเขาบอกว่าอาโน่เป็นนักแสดงครับพี่มายด์ แค่คำนี้ค่ะ อยู่ดีๆ ทุกอย่างวึ๊บมาในหัวหนูหมดเลย เขาคือนักแสดง หนูเป็นคนอินกับอะไรง่ายมาก กลายเป็นว่า เขาเป็นนักแสดง เขาเลยทำให้เราอินกับเขาง่ายหรือเปล่า รู้สึกง่ายหรือเปล่า หนูไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเพื่อเก็บไว้เลย ทั้งที่โอกาสเรามีเยอะแยะไปหมด แต่หนูรู้สึกไม่อยากให้เขามีปัญหาเลยในเรื่องของเรา เพราะเราก็อยากโปรเทคเขาเหมือนกัน แต่หนูมั่นใจว่าถ้าในเรื่องถ้าหนูจะหารูปหรือวิดีโออะไรก็แล้วแต่ ก็มีบ้างแหละในที่สาธารณะ แต่จากเรา เราไม่เคยถ่ายไว้ เพราะหนูรู้สึกว่ามันจริงตอนนั้น หนูไม่อยากทำร้ายเขาเลย เหมือนกันค่ะ ทุกๆ ความสัมพันธ์กับแฟนแต่ละคน หนูไม่เคยคิดอยากทำร้ายใครเลย

 

แก้ม คุณรู้ความสัมพันธ์นี้มั้ย?

แก้ม : ช่วงหลังๆ หนูไม่ทราบ แต่ระยะเวลาพี่มายด์ทำงาน หนูสัมผัสได้ว่าตัวพี่โน่เองมีความแปลกๆ กับพี่เรา และรู้สึกว่าพี่เราอยากทำงานนี้ หนูก็ได้แต่เตือนว่าหนูไม่รู้นะว่ายังไง แต่ที่แน่ๆ หนูแนะนำว่าเวลาพี่มายด์เอาของไปให้พี่โน่ เวลาพี่โน่อยากได้อะไร ไปที่กองถ่าย อยากให้พี่มายด์วางตัวดีๆ บางทีไม่รู้คนภายนอกคิดยังไง นี่คือสิ่งที่หนูคิดได้ เพราะถ้าสิ่งที่มองเห็นคือพี่มายด์น่ารัก หน้าตาพี่มายด์น่ารัก กลัวคนพูดไปเพราะคิดเข้าใจผิดกันไปเอง หนูได้แต่เตือนเรื่อยๆ จนทุกอย่างเกิดขึ้น จนแก้มรู้ก่อนทุกคนไม่มาก แก้มรู้พร้อมเพชรเลย ทุกครั้งที่คุยกันก็บอกว่าห้ามใจอ่อนนะ หนูเป็นรุ่นน้องพี่มายด์ ไม่สามารถด่าเหมือนเพื่อนได้แต่หนูใช้วิธีว่าพี่มายด์เขาหล่ออย่าใจอ่อนนะ ใช้วิธีการเตือนแบบนี้ บอกว่าแข็งใจไว้ สู้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้แต่เตือน เรื่องอื่นหนูรู้พร้อมทุกคนและรู้พร้อมเพชร หนูได้คุยกับพี่มายด์ตอนหลัง พี่มายด์บอกว่าแก้มรู้จักทั้งคู่ ไม่อยากให้รู้สึกอึดอัดใจ

 

คุณจะไม่รู้ได้ยังไง คอนโดเป็นของคุณ?

แก้ม : คอนโดนี้เช่าเพราะมีการไปกลับต่างจังหวัดบ่อยมาก เดือนนึงแก้มเข้ากรุงเทพฯ บ่อยเช่นกัน แต่หลังปีใหม่ เพื่อนเป็นพยานได้ว่าแก้มมากรุงเทพฯ กี่ครั้ง มานับครั้งได้ หลังๆ แก้มเกรงใจพี่มายด์กับเพชร มาถึงก็ไปนอนคอนโดเขาทั้งคู่ เราเดินป้วนเปี้ยนในห้องก็เกรงใจ ก็เลยมาเช่าห้องเอง และให้คีย์การ์ดพี่มายด์ไว้ว่าแก้มไม่ค่อยมานะ ถ้าใครมาทำงานแถวบางนาก็มาพักห้องแก้มได้ แต่ระยะเวลาตรงนั้นแก้มไม่ได้เข้ามาที่กรุงเทพฯ ค่ะ ไม่ได้มาอยู่ที่ห้อง แก้มอยู่นครสวรรค์ค่ะ มารู้พร้อมฝั่งเพชรค่ะ

 

จากนั้นเรื่องเลยเถิด เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ที่เพชรไปเจอ?

มายด์ : ปกติถ้าพี่โน่รู้สึกไม่ค่อยโอเค ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เราจะคุยกันเสมอ เหมือนกันค่ะ อาจเหมือนเคสที่เพื่อนๆ หรือใครโทรหาหนู หนูจะเป็นคนที่เพื่อนๆ แต่ละคนชอบปรึกษาโน่นนั่นนี่ แต่ละวันมีสายเข้าเยอะมากๆ แล้วเราทำหน้าที่แค่ฟัง เหมือนกันค่ะพี่โน่ก็เป็นอีกหนึ่งคน เวลาที่ไม่โอเคก็เลือกมาคุยกับเรา ทีนี้วันนั้นเป็นวันนึงที่เขารู้สึกไม่ค่อยโอเค ด้วยเรื่องผลบอล หรืออะไรที่ออกมา เขาบอกว่างั้นวันนี้ขอเจอได้มั้ย หลังจากเสร็จจากสนามแล้ว เราก็โอเค ได้ แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นช่วงก่อนเกิดเรื่องไม่กี่วัน หนูคุยกับเพชรว่าความรู้สึกเราชัดเจนกับตัวพี่โน่แล้ว ก่อนหน้านั้นตัวหนูและเพชรไม่ได้มีใคร ก็เลยปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเรายืดเยื้อและคาราคาซังมาตลอด แต่พอหนูเริ่มชัดเจนกับตัวเองแล้ว หนูไม่รู้ว่าวันข้างหน้าความสัมพันธ์หนูกับพี่โน่เป็นยังไง หนูไม่ได้มองตรงนั้น แต่ตอนนี้เราโอเค เราพร้อมแยกกับเพชรแล้วจริงๆ เลยไปคุยกับเขาว่าเรารู้สึกไม่เหมือนเดิมนะ ด้วยเหตุผลเราสามารถอยู่ได้โดยไม่มีเพชรแล้วนะ

 

ก่อนเกิดเรื่องสองวัน?

มายด์ : จริงๆ วันที่ 2 พ่อกับแม่เพชรมาหา ซึ่งเป็นวันเกิดคุณแม่เขา ทุกครั้งที่เป็นวันเกิดพ่อแม่ หรือคนรอบข้างเพชร ทั้งเรื่องของขวัญ หนูวิ่งหาให้ตลอด เหมือนกันค่ะ วันเกิดเพชร ก็บอกว่าเพชรพาไปกินโน่นนั่นสิ วันนั้นหนูเลิกงานดึกด้วยซ้ำ เลิกงานก็รีบไปทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ แต่เป็นช่วงที่เรากำลังจะเฟดจากเพชรออกมาอย่างจริงจัง วันนั้นเพชรสังเกตได้ว่าหนูน่าจะไม่เหลือแล้วจริงๆ ความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ เขาก็เลยถามว่าแน่ใจเหรอว่าเราไม่มีใคร เธอก็อยู่ได้มาตลอดนี่ เวลาหนูชวนเขาไปไหน เขาแทบไม่อยากไปไหนกับเราเลย แค่ไปกินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย มันยากมากๆ ก่อนหน้านี้เราเป็นคนทานข้าวคนเดียวไม่เป็น ไม่เก่ง กลายเป็นเราทำคนเดียวได้จริงๆ กินข้าวคนเดียวได้ ช้อปปิ้งคนเดียวได้ เมื่อไหร่ที่เพื่อนไม่ว่าง เมื่อก่อนเราไม่ออกเลย เรารู้สึกว่าเราอยู่ได้แล้วจริงๆ แต่เราไม่ได้บอกเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับพี่โน่ แต่หนูไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้นว่าเราต้องคบพี่โน่ขนาดนั้นในอนาคต ไม่ใช่ค่ะ เพียงแต่มันหมดแล้วจริงๆ กับเพชร โอเค เราก็ควรทำให้ชัดเจน นั่นแหละค่ะ เขาก็แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมก่อนหน้านี้ไม่มีใครแล้วทำไมถึงไม่เป็นปัญหานี้ขึ้นมา แน่ใจเหรอว่าไม่มีใคร มันก็เลยทำให้เขาอาจจะสืบหรืออะไรก็แล้ว ใช้วิธีการอะไรของเขาก็แล้วแต่ โดยที่หนูก็ไม่ทันได้ระวังอะไรเลย ตอนนั้นเขาบอกเลิกหนูแล้วแหละ บอกว่าถ้าหนูอยู่ได้แล้ว ก็อยู่ไปเลย แต่เรายังหวังดี เป็นห่วงกัน แน่นอนหนูอยู่กับเขามานาน หนูยังเป็นห่วงเขาเสมอ หวังดีกับเขาเสมอ พอเป็นการเขาบอกเลิกเรา โดยเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน หนูกลับมาอยู่ห้องแก้ม โดยหนูอยู่คนเดียวนะ เขาก็อยู่ของเขาคนเดียว ซึ่งเรายังไม่ได้คุยกันเลย เราไปคุยให้เคลียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์มั้ย มันก็กลายเป็นว่า เขาปล่อยหนูไปแล้ว แต่หนูต้องการคุยให้เคลียร์ เจตนาก็คือเพื่อไม่ให้มีอะไรติดค้างกัน เราเคลียร์ใจกันก่อนให้เคลียร์จริงๆ อย่างที่บอกหนูตั้งใจกลับไปคุยกับเพชรจริงๆ ในเรื่องความรู้สึกอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้เลิกกันแบบไม่เข้าใจกันเลย หนูสามารถเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ และยังโอเคกับเพชรในพาร์ตการเป็นเพื่อน ความรู้สึกเราเหมือนเป็นเพื่อนกันมานานแล้วค่ะ เพราะว่ามีแต่หนูเทคแคร์เขา เขาไม่เคยอะไรเราเลย ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเพื่อนๆ คนอื่นๆ พอเขาพยายามถามเรา ซึ่งก่อนหน้านี้หนูไม่เคยมีปัญหาเลย แต่หนูอาจไม่ได้เนียน fine my phone หนูก็ไม่ได้ปิด เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดอะไรขนาดนั้น แต่โอเคเราพูดไม่ตรงกับ fine my phone ก็จริง เขาเห็นใน fine my phone ว่าเราอยู่ที่คอนโด เขาก็เลยมาที่คอนโด แต่ตอนลงมา เราไม่ได้วิ่งหนีนะคะ

 

ทำไมไม่หยุดคุย?

มายด์ : เพราะเขาอารมณ์ร้อนค่ะ เพราะที่ผ่านมาเขาอารมณ์ร้อน

 

กลัวต่อยพี่โน่เหรอ?

มายด์ : ไม่แน่ใจว่าจะมีพาร์ตเขามีปัญหาหรือเปล่า เราก็เป็นห่วงทั้งคู่

 

กลัวเพชรโดนต่อย?

มายด์ : ก็คุยทีละคนดีกว่า ก็ทักว่าแป๊บนะเพชร เดี๋ยวกลับมาคุย แล้วก็กลับมาคุยค่ะ

 

คุณก็ไม่ได้บอกโน่ว่ามีแฟนแล้ว?

มายด์ : ช่วงแรกไม่ได้บอกค่ะ ทุกคนจะรู้ว่าหนูโสด

 

เมย์บอกว่าคุณบอกเขาว่าโสดตั้งแต่แรก ทีมงาน 30 ชีวิตเข้าใจว่าคุณโสดหมดเลย?

มายด์ : ใช่ พอเราสนิทกันมากขึ้น ออกกองด้วยกัน 3 คน ก็มีการถามว่าคุยกับใครอยู่บ้าง เป็นการแชร์ หนูก็บอกว่ามีคนนึง เป็นแฟนเก่า ยังคุยกันทุกวัน หลังๆ เราก็คุยกับพี่โน่ทุกเรื่อง

 

คุณได้บอกโน่มั้ยว่ามีแฟนแล้ว?

มายด์ : บอกว่ามีแล้ว แต่ยังคาราคาซังยังไม่จบ หนูบอกว่าโสดค่ะ พอคุยถามกันมาเรื่อยๆ สนิทกันเรื่อยๆ ก็บอกว่ายังไม่ได้ขาดกับแฟนเก่าค่ะ

 

สถานภาพคือโสด แต่ยังคาราคาซังกับแฟนเก่าอยู่ แต่เลิกกับแฟนเก่าแล้ว เขารับรู้ใช่มั้ย?

มายด์ : ค่ะ

 

เขารู้หรือไม่รู้?

มายด์ : อย่างที่บอกค่ะ เลิกแล้วแต่ยังไม่ขาด สำหรับเรา เราโสด ก็บอกกับพี่โน่ค่ะ เขาก็บอกว่างั้นมายด์ไปเคลียร์ให้จบนะ หนูก็บอกว่าโอเค

 

ตอนเขาลงมาจากห้องแล้วไปขึ้นรถ เขาถามคุณว่าอะไร?

มายด์ : เขาถามว่าเพชรคือใคร เพราะไม่เคยบอกว่าคนไหน ไม่เคยพูด

 

เขาบอกว่าเขาเป็นชู้เหรอ?

มายด์ : ตามคลิปวันนั้นเลยค่ะ เขาถามว่าใคร ก็บอกว่าเป็นแฟนเก่า หนูจบแล้ว แต่เขายังไม่จบ

 

โตโน่ก็เหมือนไม่รู้เรื่องมาก่อน คุณจะตอบว่าไง?

มายด์ : เขาไม่ใช่ชู้ค่ะ

 

โตโน่ไม่รู้หรือเปล่า?

มายด์ : ก็อย่างที่บอกเลยค่ะ ว่าเรายังไม่ขาดกับแฟนเก่า เขาก็รู้ว่าหนูยังไม่ขาดกับแฟนเก่า แต่อาจเป็นเพราะเพชรมาในวันนั้น เขาเลยรู้สึกว่าเป็นชู้หรือเปล่า แต่จริงๆ ความรู้สึกจบไปแล้วกับเพชร เพียงแต่ยังคาราคาซัง ยังค้างคา

 

ไม่ได้อยู่ข้างโน่ เป็นกลางจริงๆ มองว่าถ้าเอาตัวพี่ไปเป็นโตโน่ตอนนั้น ถ้าเข้าใจว่าผู้หญิงที่กำลังคุยอยู่ ถ้ารู้ว่ามีแฟนแล้วอาจไม่ยุ่ง ถ้าไม่รู้ รู้ว่าเลิกแฟนแล้ว ยังเคลียร์กันอยู่ แต่ยังไม่ขาด ถ้าผู้ชายคนนั้นจับได้ แล้วมีคำพูดว่าเฮ้ย อย่าบอกว่าพี่เป็นชู้นะ ก็เหมือนเพิ่งรู้วันนั้นเหมือนกัน?

มายด์ : ก็เพราะยังไม่จบ ยังไม่ขาด พี่โน่รู้ ทุกอย่างการคุยกัน พี่เมย์อยู่ด้วยว่าหนูยังไม่ตัดขาดจากแฟนเก่า ถ้ารื้อคลิปก็ได้ค่ะ

 

คุณยืนยันว่าไม่ได้ตัดขาดกับแฟนเก่า?

มายด์ : ใช่ค่ะ

 

แชตที่บอกว่าจะกลับไปกอด?

มายด์ : กลัวเขาโมโห กลัวเขาไม่โอเคมากๆ ก็แค่กลับไปให้เราคุยกันตรงนั้นดีกว่า อยู่ด้วยกันดีกว่า

 

โน่ผิดกับณิชา อีกหนึ่งผิดกับเพชร แต่ก็ตอบแทนไม่ได้ ถ้าโน่บอกว่าไม่รู้ว่าคุณเองมีแฟนแล้ว แต่เขาก็หนีไม่พ้นเรื่องความผิดต่อณิชา แต่พอมีเรื่องปุ๊บเขาตัดขาดคุณเลยใช่มั้ย?

มายด์ : เขาให้หนูไปเคลียร์ค่ะ หลังจากเกิดเรื่องวันนั้นเรายังคุยกันดีๆ อยู่เลยค่ะ จนกลางคืนเพชรก็โทรหาพี่เมย์ หนูก็ไม่แน่ใจว่าพี่เมย์คุยอะไรกับพี่โน่ จากนั้นเขาก็โอเค ทักมาหาหนู เหมือนเขาโกรธอะไรสักอย่าง แต่เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลยค่ะ เขาบอกจบ หนูก็บอกโอเค ถ้าจะจบก็คือจบ

 

หลังมีปัญหาเกิดขึ้น โน่ติดต่อคุณมามั้ย?

มายด์ : ไม่ค่ะ อย่างที่บอกว่าเรายังไม่ได้เคลียร์กันเลย หนูก็รอให้เขาออกมาเคลียร์เหมือนกัน ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง ออกมาเคลียร์กับหนูก็ได้ในตอนนั้น แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วค่ะ หนูโอเคแล้ว ไม่ได้อยากรู้อะไรแล้ว

 

ตอนนั้นอยากให้เขาเคลียร์อะไร?

มายด์ : เคลียร์ว่ามีอะไรที่พี่ไม่โอเคหรือเปล่า เขาดูโกรธ หนูทำอะไร ในเมื่อเราคุยกันแล้ว เราคุยกันหมดแล้วทุกอย่าง

 

จะบอกว่าเขาโกรธคุณเหรอ?

มายด์ : วันนั้น หลังจากเขาคุยกับพี่เมย์ เหมือนเขาโกรธ เขาบอกว่าโอเค มายด์ งั้นจบกันดีกว่า ถ้ามายด์ยังมีแฟนอยู่ หนูก็โอเค ถ้าเขาไม่อยากฟังก็ไม่เป็นไร ซึ่งหนูเป็นคนที่ใครร้อนอยู่หนูจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด อีกวันก็อยากถามว่าเราจะลองเคลียร์ลองคุยกันมั้ย ในเมื่อเขาไม่ได้อยากคุยก็ไม่เป็นไร  ก็อย่างที่บอกค่ะ อยู่ดีๆ คำพูดของหลานเขาก็เข้ามาในหัว ว่าอาโน่เป็นนักแสดงค่ะพี่มายด์ เหมือนรีรันอยู่ในหัว ว่าว้าว ก็คงใช่แหละ

 

คุณจะบอกว่าคุณโดนหลอก?

มายด์ : ก็น่าจะ แต่ตอนนั้นหนูเชื่อสนิทใจ แล้วเขาบอกว่าเขาแช่ว่านมา เขาผิดศีลไม่ได้ เขาโกหกไม่ได้ เขาจะอะไรกับหนูไม่ได้ถ้าหนูยังไม่ไปจบกับคนเก่า ซึ่งหนูก็ต้องไปจบ แต่ก็งงว่าถ้าหนูจบ แล้วพี่ไม่จบล่ะ พี่ไม่ผิดศีลเหรอ

 

พ่อพี่เป็นคนพัทลุง พ่อพี่เป็นศิษย์เขาอ้อโดยตรงที่แช่ว่าน พ่อพี่เป็นเลขาฯ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เป็นคนสร้างอาจารย์นำรุ่นแรก เหรียญต่างๆ นานา พ่อพี่เป็นคนทำทั้งนั้นเลย พี่ไปแช่ว่านมาตั้งแต่พี่เด็กๆ เลย เขาอ้อไปถามได้ ช่วงเวลานึงพี่โกหกเก่งฉิบหายเลย มีดบาดปุ๊บเข้าทุกอัน ไม่ได้ลบหลู่นะ บางเรื่องมันตอบไม่ได้ แต่เขาบอกว่าห้าม?

มายด์ : ค่ะ เขาอ้อบ้านหนู หนูก็เชื่อแบบนั้น เราก็ศิษย์วัดเขาอ้อคนนึง แค่ไม่ได้แช่ว่าน เพราะแช่ว่านเป็นพิธีสำหรับผู้ชาย เราแค่เชื่อแบบนั้นจริงๆ แต่พอเราให้โอกาสเขา หนึ่งเราให้โอกาสตัวเองได้ตั้งสติ สองเราให้โอกาสเขาได้มาเคลียร์ ถ้าในเมื่อตอนนี้หนูได้สติแล้ว เขาไม่เคลียร์ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่สิ่งที่หนูพูด หนูก็พูดความจริงเหมือนกัน

 

คุณเชื่อสนิทใจว่าโน่เลิกณิชา คุณแจ้งคุณโน่ไปแล้วว่ามีแฟน แต่มีปัญหากัน โสด แต่แฟนยังไม่เลิก ยังคาราคาซัง เขาบอกให้ไปเคลียร์ให้จบ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เวลาเจอกัน ส่วนใหญ่คุณไปที่คอนโดของเพื่อน ส่วนคลิปต่างๆ ขอไม่ก้าวล่วง เพราะเมื่อวานก็ขอโทษด้วยเหมือนกัน ที่ทีมงานเปิด ถ้าผมฟังก่อนก็คงไม่ให้เปิดหรอก อีกสองเรื่องที่คนสงสัย คุณโต้ง ตกลงเป็นยังไง?

มายด์ : เคยคุยกันค่ะ แต่หนูไม่ได้ไปทำให้ใครเลิกกันแน่นอน ไม่ได้มีเจตนา ที่แน่ๆ เป็นช่วงเขาโสด และหนูก็โสด ในตอนนั้น โสดด้วยกันทั้งคู่

 

ตอนนั้นโต้งคบกับนางเอกท่านนึงอยู่ไม่ใช่เหรอ?

มายด์ : เป็นช่วงที่เขาเลิกกันค่ะ แล้วเขาทักหนูมาเอง ตอนนั้นหนูโสด เราก็ได้คุยกันแค่นั้นเอง ช่วงเวลานึงแค่คุย ไม่ได้มีอะไร

 

จากนั้นเขากลับไปคุยกับท่านเดิม?

มายด์ : ใช่ค่ะ ช่วงเขาเลิกกันนั่นแหละค่ะ แต่ไม่ได้เลิกกันเพราะหนูนะ เขาเลิกกันสักพักแล้ว ไทม์ไลน์ตรงนี้เพื่อนๆ หนูรู้ดี เพื่อนๆ เลยออกมาโปรเทคในสิ่งที่ไม่จริง

 

คุณคุยกัน ไม่ได้คบเป็นแฟน?

มายด์ : ใช่ค่ะ แล้วก็ไม่ได้คุยกันต่อ เพราะมีอีกคนเข้ามาในชีวิต หนูรู้สึกว่ากับคนนี้มันคลิกกว่า มันโอเคกันมากกว่า

 

คุณก็เลยคุยกับคนนี้ ไม่ได้คุยกับคุณโต้ง หลังจากนั้นโต้งกลับไปคบกับนางเอกสาวท่านเดิม แล้วแยกย้ายกันทีหลัง?

มายด์ : ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกันค่ะ

 

ได้คุยกับคุณโต้งแล้ว ไทม์ไลน์ใกล้ๆ กัน อีกอันที่จำเป็นต้องถาม เมื่อวานเพชรมานั่ง มีประเด็นนึงเขาบอกคุณเพชรไม่น่าสงสาร เพราะเพชรแย่งคุณจากลูกชายของเขา ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?

มายด์ : คนนั้นเป็นแม่แฟนเก่าหนู หนูกับแฟนเก่ามีปัญหากันอยู่แล้วก่อนหน้านั้น แต่ด้วยเหตุที่เราจะเอาแค่เรื่องเราสองคนไม่ได้ มันไม่ได้รักกันแล้ว แต่ยังอยู่ด้วยกัน จริงๆ เราจบกันไปแล้วนะคะ เราไม่ได้รักกันแล้ว แต่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ด้วยกัน

 

ทำไมชีวิตคุณมันแปลก คุณมีแฟน คบหากัน จะต้องเลิกกัน แต่ไม่เลิกขาด ยังต้องอยู่ด้วยกัน ชีวิตคุณเหมือนถูกสาป?

มายด์ : ให้ได้ค้างคา นั่นน่ะสิคะ

 

ทำไมเลิกขาดไม่ได้เลยเหรอ ต่างคนต่างใช้ชีวิต มันชัดเจน คนก็ครหาไม่ได้ จบก็แยกย้ายกันไป?

มายด์ : กับเพชรยังมีความเป็นห่วง เพราะระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน

 

ตกลงเพชรไม่ได้แย่งคุณจากผู้ชายอีกคน?

มายด์ : ไม่ได้แย่งค่ะ แต่การมีเพชรทำให้หนูกล้า เห็นค่าของตัวเอง และเดินออกมาจากตรงนั้นค่ะ

 

เพชรส่งข้อความมาหาผมว่าอยากเข้าสาย?

แก้ม : แก้มไม่ได้อยากมีบทบาทในเรื่องนี้ แก้มก็รู้จักบุคคลที่เราพูดถึง เป็นเพื่อนของแก้ม มีประเด็นก่อนเพชร แก้มได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องข่าวใดๆ เราไม่อยากพูดดีเทลเรื่องนี้มากนัก เนื่องจากอย่างที่ทุกคนทราบ มันมีเหตุผลบางอย่างที่ตัวคุณแม่ผู้ชายไม่ทราบ เขารู้กันแค่สองคน พอคุณแม่มาโพสต์ เขาจะพุ่งประเด็นนี้ให้เพื่อนไปจัดการกับคุณแม่ เหตุผลเลิกกันมี แต่เขารู้กันแค่สองคนพอ

 

มายด์ : เวลาเลิกกับใคร ไม่ได้มานั่งเล่าเหตุผล ไม่ได้พูดเรื่องไม่ดีให้ใครฟัง

 

ที่เล่ามาทั้งหมดเคยรู้สึกผิดมั้ย?

มายด์ : รู้สึกผิดแน่นอนค่ะ คนแรกคือณิชา วันนี้ที่มายด์ออกมา อยากขอโทษณิชาและครอบครัวค่ะ ที่มายด์ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ดีซะก่อน ขอโทษเพชรและคุณพ่อคุณแม่ด้วย ที่ไม่เคลียร์ให้จบ ไม่เคลียร์ทุกอย่าง ไม่เคลียร์ความสัมพันธ์ของตัวเองให้จบ แต่อย่างที่บอกค่ะว่ายังเป็นห่วงจริงๆ ทุกวันนี้ไม่ได้คุยกันแล้วนะคะ ก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ ขอโทษพ่อกับแม่ และครอบครัวตัวเองที่ต้องคอยตอบคำถามคนอื่น (ร้องไห้) และขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดเรื่องน่าปวดหัวและต้องคอยตามข่าวพวกนี้ค่ะ (เช็ดน้ำตา)

 

จะกลับไปเคลียร์พี่โน่อีกมั้ย?

มายด์ : ไม่แล้วค่ะ หนูไม่ได้อยากรู้อะไรแล้วค่ะ

 

ถ้าเขาอยากติดต่อ?

มายด์ : ไม่แล้วค่ะ

 

โกรธเพชรมั้ยที่มีคลิปหลุดจากเขา?

มายด์ : ตอนแรกก็โกรธค่ะ ตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน หนูทำดีมาตลอดเลย อดทนมาตลอด ดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่เคยทำอะไรผิดเลย ไม่เคยนอกใจ ไม่เคยบอกเลิก นั่นแหละค่ะ นี่คือสิ่งที่หนูควรได้รับแล้วจริงๆ เหรอ แค่นั้นเองค่ะ เป็นสิ่งที่หนูต้องได้รับจริงๆ ใช่มั้ยคะ (เช็ดน้ำตา) มันต้องขนาดนี้เลยใช่มั้ย แต่เราได้คุยกันแล้วค่ะ เขาบอกว่าเขาทำไปเพราะอารมณ์ ซึ่งมันเป็นปัญหาเดิมๆ เลยค่ะ ที่เป็นปัญหาของเรามาตลอด เขาทำไปเพราะอารมณ์ ซึ่งเราเข้าใจได้เหมือนทุกที ตอนนี้ไม่ได้โกรธแล้วค่ะ

 

คิดว่าจะกลับไปเป็นเพื่อน อยู่ในสถานภาพเดิมมั้ย?

มายด์ : ทุกวันนี้หนูยังเป็นห่วงและหวังดีกับเขา แต่ถ้าให้กลับไปสถานภาพเดิม มันคงยากค่ะ แต่ถ้าเป็นเพื่อน ก็คงได้มั้งคะ แต่หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยทำอะไรผิดซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าอันนี้ก็เป็นบทเรียนของหนูเลย ไม่ว่าจะจากอะไรก็แล้วแต่ที่ผ่านมา ถ้าให้กลับไปเป็นเพื่อน ก็เป็นเพื่อนห่างๆ ก็ยังหวังดีกับเขาแหละค่ะ

 

กังวลมั้ย มันอาจมีผลกระทบ คุณไปไหนคนครหา คุณทำงานที่ไหนเขาอาจไม่กล้าจ้าง?

มายด์ : วันนี้ที่หนูกล้ามาเปิดหน้า เพราะโซเชียลเปิดหน้าหนูหมดแล้ว อีกอย่างหนูมาด้วยความจริงใจล้วนๆ ใครไม่รู้จักหนูไม่เป็นไร แต่หนูแคร์คนรอบข้างอย่างที่บอก จริงๆ หนูไม่ต้องออกมานั่งพูดตรงนี้ก็ได้ เพราะคนรอบข้างเข้าใจหนู
หมดแล้ว ก่อนหนูมาออกรายการนี้นะคะ อีกอย่างคือเพื่อนๆ อะไรที่ไม่ได้เห็นก็ได้เห็น อะไรไม่เคยรู้ก็ได้รู้ รู้สึกว่าหนูเคลียร์ทุกอย่างแล้ว แต่เรื่องการทำงาน ก็แล้วแต่ใครจะมองหนูผิดหรือไม่ผิด แล้วแต่เลยค่ะ หนูให้เกียรติ เคารพการตัดสินใจของทุกคน ไม่ได้ต้องการให้ใครมามองหนูให้ดีขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ หนูแค่อยากออกมาพูดสิ่งที่หนูอยากพูดด้วยความจริงใจแค่นั้นเอง

 

แก้มอยากพูดอะไรมั้ย?

แก้ม : แก้มพูดเลยว่าแก้มไม่สามารถบอกได้ว่าพี่มายด์ถูกหรือผิด หรือเพชรถูกหรือผิด แก้มรู้จักทั้งคู่ แก้มรู้เหตุผลของเพชรและพี่มายด์ แก้มเข้าใจทั้งคู่จริงๆ ที่ผ่านมาแก้มเห็นจริงๆ ว่าพี่มายด์ดูแลเพชรดีมาก ดีจนน่าโมโหด้วยซ้ำ หนูก็อยากให้เขามีใครสักคนที่คอยดูแล บางทีหนูเห็นเลยว่าเพชรทำงานอยู่ พี่มายด์ก็เอาผลไม้ไปให้ถึงโต๊ะแล้วเก็บ ยิ่งทริปที่พี่มายด์เล่าไป หนูเห็นว่า ณ วันนั้นพี่มายด์เป็นยังไง หนูเห็นแล้วสงสาร ก็หาพัดลมไปให้พี่ เปิดไฟในห้องครัวสว่าง ปกติพี่มายด์ไม่พูด วันนั้นพี่มายด์พูด หนูเห็นแล้วก็คิดว่าคงจบกันแล้ว คู่นี้คงไม่ได้คบกันต่อแล้ว หนูเห็นแล้วสงสารพี่มายด์มากๆ พี่มายด์พูดกับหนูแล้วหนูร้องไห้เลย พี่มายด์ขอบคุณที่หนูมาด้วย เพราะไม่งั้นเขาจะเหนื่อยกว่านี้แน่ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้ทุกคนสามารถออกความคิดเห็นได้หมด แต่อยากให้รู้ทั้งสองมุมด้วย ส่วนอีกบุคคลนึงที่มีปัญหา แก้มแอบเสียใจนิดนึง เพราะสิ่งที่แก้มเห็นและอยู่ข้างพี่มายด์มา แก้มแอบรู้สึกว่าเขาจริงจังและจริงใจกับพี่มายด์ บางทีเขาฝากพี่มายด์มาพูดกับแก้ม เหมือนเขาอยากมีตัวตนในเพื่อน แก้มคิดว่ามันคือความจริง แต่พอภาพรวมออกมา ดูได้เลยว่าการกระทำกับคำพูดเขาต่างกัน แก้มกับพี่มายด์ก็ไม่ได้อยากฟังความจริงอะไรจากฝั่งเขาแล้ว พี่มายด์ออกมาปกป้องตัวเองในวันนี้ แค่นั้นค่ะ

 

มายด์เองรู้สึกยังไง โน่เองรู้สึกผิดกับณิชา พยายามตามง้อ?

มายด์ : เห็นตามข่าวค่ะ เพื่อนๆ ส่งมาให้ดูแล้วค่ะ

 

คุณรู้สึกยังไง?

มายด์ : ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วค่ะ แล้วแต่เขาค่ะ

 

เสียใจมั้ย?

มายด์ : ไม่แล้วค่ะ อย่างที่เคยบอก ตอนนี้ไม่รู้แล้วอะไรจริงหรือไม่จริง เพราะเขาเป็นนักแสดงมั้งคะ (หัวเราะ) เขาไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย ไม่ต้องการเคลียร์ก็แล้วแต่

 

ต่างจากสิ่งที่เขาบอกว่าอยากอยู่กับคุณมั้ย?

มายด์ : ต่างค่ะ

 

เขาเคยบอกอยากอยู่กับคุณ?

มายด์ : อย่างที่บอก ไม่รู้แล้วอะไรจริงไม่จริงบ้าง ถ้าเขาอยากง้อกัน ทำไมไม่ไปง้อให้ถึงที่ จะมาพูดให้คนอื่นฟังทำไม ถ้าหนูเป็นณิชา หนูก็จะรู้สึกว่าเพื่ออะไร ทำไมไม่มาคุยกับเราเอง หรือณิชาอาจไม่พร้อมคุยอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าเป็นหนู หนูคงรู้สึกแปลกๆ ค่ะ

 

เอาแค่คุณได้ออกมาพูดในมุมคุณ วันนึงเขาบอกอยากอยู่กับคุณ แต่จริงๆ ไม่ใช่ วันนี้คุณรู้แล้ว พี่ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ในวันที่คุณไปปลุกให้เสือมันตื่น?

มายด์ : ไม่กล้าทักใคร ไม่กล้าแท็กใครแล้วค่ะ

 

มันก็ผิดกันหมดนั่นแหละ ยกเว้นณิชา ที่เขาเป็นผู้ถูกกระทำ แต่มุมเพชรอาจเป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกัน แต่มีเรื่องราวมากมายที่ต้องเคลียร์?

มายด์ : หนูว่ามีเหตุและผลของมัน

 

อยากให้สัมภาษณ์สื่ออีกมั้ย?

มายด์ : ไม่แล้วค่ะ พูดทีเดียวก็พอแล้ว หนูไม่ได้อยากออกมาพูดอะไรเยอะขนาดนั้น ก่อนหน้านั้นหนูแล้วแต่คนอื่นเลยค่ะ แต่พอมันมากขึ้นเรื่อยๆ แค่อยากออกมาโปรเทคตัวเอง เพราะคนรอบข้างโปรเทคหนู

 

เรื่องงานเอายังไงต่อไป?

มายด์ : หนูยังรับงานอยู่นะคะ งานที่สุจริต ชอบทำงาน อดทน จ้างได้ ที่สำคัญของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ คุณแม่ให้มาทั้งหมด ไม่มีของปลอมใดๆ ทั้งสิ้น ซิลิโคนไม่มี อันนี้ขอแก้ข่าวค่ะ คุณแม่หนูเดือดเรื่องนี้มาก ท่านมาให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ (หัวเราะ)

 

วันนี้หัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยนะ ให้พี่หมวยนั่งสแตนบาย นั่งฟังอยู่ตลอด บอกว่าอย่าเพิ่งไปไหนนะ มีหัวใจเต้นผิดจังหวะอยู่ช่วงนึง เผื่อต้องเปลี่ยนตัวกัน แน่นอนเรื่องนี้ต้องบอกว่าณิชาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ณิชาก็อยู่ในมุมณิชา มีแต่ความแข็งแกร่งที่ต้องผ่านไปให้ได้ เป็นห่วงนะน้อง ก็รอโน่พูด อยากให้โน่พูดจริงๆ วันนี้สิ่งที่เขาพูดมาก็ไม่รู้โกหกหรือเปล่า ต้องฟังโน่ด้วย?

มายด์ : เขาไม่ทักมาแย้งอะไรพี่บ้างเลยเหรอคะ

 

วันนี้ไม่มีทักมา แต่ก็คิดว่าควรต้องพูด ถ้าไม่พูดจะทำให้คนเข้าใจผิดไปกันใหญ่ คุณพูดมาแต่ละอันผมก็สะดุ้งเหมือนกัน คุณดูเข้มแข็ง?

มายด์ : หนูเป็นคนไม่เสียใจกับอะไรนานมากกว่าค่ะ

 

กลัวออกไปแล้วคนด่า?

มายด์ : แล้วแต่ค่ะ หนูได้พูดในมุมที่หนูอยากพูด ได้ขอโทษน้องในสิ่งที่อยากบอก พอตาสว่างแล้วรู้สึกผิดกับณิชาจริงๆ ค่ะ ตอนนั้นเชื่อว่าไม่โดนหลอกแน่ๆ ค่ะ

โหนกระแส 17 เม.ย.