โปรดิวเซอร์แถวหน้าของวงการ Knock2 เปิดตัวอัลบั้มชุดแรกที่หลายคนรอคอย nolimit กับ 17 เพลงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง การนำดนตรีแดนซ์มาสร้างสรรค์ใหม่ในสไตล์วินเทจ โดยผสานเสียงป็อปยุค Y2K คลาสสิคกับโปรดักชั่นที่ได้แรงบันดาลใจจากฮิปฮอปสุดอลังการ และยังมีเพลง Miami Bass อย่าง “dance or dead” ที่ได้ศิลปินไทยสุดปัง MILLI ร่วมด้วย nolimit ปล่อยให้ฟังแล้วทุกแพลตฟอร์ม
พบกับ ‘Dash Generator’ ที่แฟนๆ สามารถปรับแต่ง Dash มาสคอตไร้หน้า แห่งจักรวาล nolimit ได้ตามต้องการ
StarEnews – Knock2 เตรียมฉลองการเปิดตัวอัลบั้มแรก ด้วยการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกกว่า 25 รอบในฤดูใบไม้ผลิหน้า โดยจะระเบิดความมันส์ในหลายเมือง อาทิ นิวยอร์ก , ซิดนีย์ , ชิคาโก , โตรอนโต , เดนเวอร์ , ออสติน , แวนคูเวอร์ , เพิร์ท และอีกมากมาย
บัตรคอนเสิร์ต ‘nolimit TOUR ทั่วโลกของ Knock2 พร้อมให้จับจองกันแล้ว
“nolimit เป็นอัลบั้มแรกของผม มันมีความหมายมากมายสำหรับผม มันคือแบบจำลองที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อให้ก้าวสู่การเป็นศิลปินในแบบที่ตัวเองอยากเป็น การแสดงออกอย่างไม่มีเงื่อนไขในการทำงาน , เส้นทางสายดนตรี และความใส่ใจต่อดนตรีแดนซ์ ผมใส่ความเคารพที่มีต่อศิลปินและดนตรีที่ผมเติบโตขึ้นมาและเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างดนตรีอิเล็กทรอนิกส์กับเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมด้วย
ผมอยากถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวในฐานะดีเจและโปรดิวเซอร์ ตั้งแต่สมัยที่ผมเริ่มต้นกับการเป็นดีเจที่เปิดเพลงแบบไม่จำกัดแนว มาถึงการนำเพลงมารีมิกซ์ใหม่ในรูปแบบ bootleg จนกระทั่งได้ขึ้นแสดงในเทศกาลใหญ่ๆ โปรเจกต์นี้เป็นการรวบรวมประสบการณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่คล้ายคลึงกัน
นอกจากแรงจูงใจและคำอธิบายของผมเกี่ยวกับโลกของเสียงแล้ว ผมยังสนับสนุนให้ทุกคนกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าใครก็สามารถแสดงออกและมีความเชื่อว่า ‘ไม่มีขีดจำกัดในสิ่งที่เราสามารถทำได้ รู้ใช่ไหม?”
โปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กทรอนิกส์มาแรง Knock2 ส่งอัลบั้มชุดแรกที่ทุกคนตั้งตารอ nolimit ซึ่งอัดแน่นไปด้วย 17 เพลงที่หลากหลายไม่เหมือนใคร ถือเป็นการส่งท้ายปี 2024 แบบสุดปังสำหรับศิลปินชาวซานดิเอโกคนนี้ ปีแห่งความสำเร็จของศิลปินวัย 25 ปี เขาจัดโชว์อันน่าจดจำกับการขึ้นแสดงสด legendary b2b with RL Grime at Ultra Music Festival , การสร้างความตื่นตาตื่นใจในการแสดงที่ Coachella ในฐานะส่วนหนึ่งของ ISOKNOCK , ไปจนถึงการจัดเทศกาล San Diego 4EVR เอง พร้อมกับบัตรถูกขายหมดเกลี้ยงทั้งสองคืน ซึ่งงานนี้ยังส่งให้โชว์ของ ISOKNOCK ในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2024 ขายบัตรได้ถึง 50,000 ใบ ความสำเร็จเหล่านี้ปูทางสู่ปี 2025 ที่แฟนๆจะสามารถดื่มด่ำไปกับจักรวาล nolimit อัลบั้มที่จะสะท้อนความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของ Knock2 ในการผสานเสียงดนตรีสุดอลังการแห่งการเฉลิมฉลองกับโปรดักชันที่ซับซ้อน
นับตั้งแต่วงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์เฟื่องฟู ก็เริ่มมีแฟนเพลงรุ่นใหม่หันมาสนใจจากเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ สู่ชุมชนเฉพาะกลุ่มในโลกออนไลน์มากขึ้น อย่างน้อยก็กระทั่งการมาถึงของ Knock2 หลังจากความสำเร็จอย่างถล่มทลายของเพลงฮิต “dashstar*” Knock2 ก็ได้รับความนิยมระดับโลก เขาก้าวจากวงการเพลงท้องถิ่นในซานดิเอโกบ้านเกิดและระบบ SoundCloud สู่เวทีหลักในระดับนานาชาติ ด้วยเหตุนี้ Knock2 ได้นำความสดใหม่มาสู่วงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์และดึงดูดแฟนเพลงรุ่นใหม่จำนวนมาก โดยเขายังคงสืบทอดวัฒนธรรมของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จากศิลปินรุ่นก่อนกับการแสดงบนเวทีใหญ่ให้คงอยู่สู่คนรุ่นต่อไป
อัลบั้ม nolimit คือผลลัพธ์สูงสุดของการฟื้นฟูวัฒนธรรมนี้ รายชื่อเพลงในอัลบั้มนี้ผสานดนตรีโปรเกรสซีฟและอิเล็กโทรเฮาส์เข้ากับอิทธิพลป็อปยุค Y2K โดยหลอมรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้ากับเสียงดนตรีสไตล์ฮิปฮอปที่ไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้การเปิดตัวอัลบั้มยังมอบประสบการณ์ให้แฟนๆได้สัมผัสกับการเล่าเรื่องที่ดื่มด่ำและเปิดเผย รวมถึงภาพความล้ำสมัยในอดีต ผลลัพธ์ : โปรเจกต์มัลติมีเดียเต็มรูปแบบที่ผสานความจริงในโลกดิจิทัลกับชีวิตจริงเข้าด้วยกัน โดนใจแฟนเพลงแดนซ์รุ่นใหม่ พร้อมกระตุ้นให้พวกเขาอยากสัมผัสกับประสบการณ์การฟังเพลงในงานแสดงใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ภายใน nolimit Multiverse: องค์ประกอบเชิงโต้ตอบที่สำคัญ
● nolimitmuzik.net – อินเตอร์เฟซไม่เหมือนใครที่ผสมผสานระหว่างโปรแกรม Windows รุ่นเก่า , เกมบอย Nintendo และวิทยุพกพา ก่อนเปิดตัว nolimit สถานีต่างๆ ได้ส่งสัญญาณเสียงบางส่วนจากอัลบั้มชุดนี้ให้ได้ฟัง
● วิดีโอวันวางจำหน่ายอัลบั้ม
● Dash Generator – ผู้คิดค้นที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ปรับแต่ง Dash มาสคอตไร้หน้าแห่งจักรวาล nolimit ในแบบของตัวเองได้เต็มที่
● “hold my hand” music video – มิวสิกวิดีโอสำหรับซิงเกิลที่ 2 ของอัลบั้ม nolimit ซึ่งกำกับโดย Alec West นักแอนิเมชั่นสามมิติในรูปแบบโพลีต่ำอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
● “come aliv3” visual teaser – หนึ่งในหลายๆ คลิปโปรโมตที่ทำให้โลกแห่งภาพของ nolimitสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
แฟนๆ ได้สัมผัสกับจักรวาล nolimit ครั้งแรกผ่านซิงเกิลเปี่ยมพลัง 3 เพลง ได้แก่ “feel U luv me” (press release) , “hold my hand” (press release) และ “come aliv3” (press release) เพลงที่คอลแลบกับ RL Grime – เพลงเหล่านี้นำสุนทรียศาสตร์ของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ต้นยุค 2010 ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในบริบทร่วมสมัย
แนวคิดแห่งเสียงนี้ยังรวมถึงเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม nolimit อย่าง “crank the bass, play the muzik”และ “shake!the!city!” Knock2 ผสานเสียงร้องที่ติดหูเข้ากับคอร์ดโปรเกรสซีฟที่ร้อนแรงและบีทเฮาส์ที่เร้าใจ ส่วนเพลง “dance or dead” Knock2 ดึงศิลปินป็อปชาวไทย MILLI มาร้องเพลงสไตล์ไมอามีเบสที่ถ่ายทอดเสียงร้องดุดันกับโปรดักชั่นสไตล์ฮิปฮอป
Knock2 with MILLI
การหลอมรวมแนวเพลงยังมีให้เห็นในเพลงแนวดรัมแอนด์เบส “select@” และเพลงเทคโน/ฮาร์ดสไตล์ “shyne 4 me” ที่เป็นการร่วมงานกันระหว่างโปรดิวเซอร์ Holly ,แรปเปอร์ Warren Hue และ นักร้อง PIAO ส่วนเพลง “my melody” ที่ฟิเจอริ่งกับ Sophia Gripari Knock2 นำเอาอารมณ์เพลงจังเกิลที่เขาถนัดมาสร้างสรรค์เป็นเพลงป็อปที่นุ่มนวลและสง่างามและเพลงสุดท้ายที่ใช้ชื่อเดียวกับอัลบั้ม ศิลปินนำเสนอบทสรุปที่ยิ่งใหญ่ด้วยดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับบรรยากาศแบบภาพยนตร์
อัลบั้ม nolimit และภาพประกอบที่นำเสนอนั้น สะท้อนถึงความงามของการสร้างสรรค์ขึ้นเอง ผ่านสไตล์ภาพเรียบง่ายที่บอกเล่าเรื่องราวของ Dash ตัวละครที่เป็นจัดตั้งสถานีวิทยุเถื่อนในโลกดิสโทเปีย โลกที่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อันดังกึกก้องถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
แฟนเพลงสามารถสัมผัสประสบการณ์แห่งโลกที่มีปฏิสัมพันธ์กับคุณได้ด้วยตัวเอง กับทัวร์ระดับโลก ‘Knock2: nolimit TOUR’ ซึ่งจะเปิดฉากที่แวนคูเวอร์ , บริติชโคลัมเบีย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยจะมีการนำเสนอเวทีใหม่ที่ชื่อว่า “The Stack” สำหรับทัวร์ครั้งนี้ Knock2 ยังจะได้ขึ้นเวทีหลักในสถานที่อันมีชื่อ ทั้ง Terminal 5 ในนครนิวยอร์ก Mission Ballroom ในเดนเวอร์ , Radius ในชิคาโก และอีกมากมาย เพื่อให้แฟนๆได้ดื่มด่ำกับการแสดงสดที่สะท้อนจิตวิญญาณอันแรงกล้าในยุคที่ nolimit อย่างแท้จริง
‘ตารางทัวร์ Knock2: nolimit’
7 กุมภาพันธ์ 2025 : Vancouver, BC – PNE Forum
8 กุมภาพันธ์ 2025 : Vancouver, BC – PNE Forum
12 กุมภาพันธ์ 2025 : Salt Lake City, UT – Rockwell at The Complex
14 กุมภาพันธ์ 2025 : Denver, CO – Mission Ballroom
18 กุมภาพันธ์ 2025 : Austin, TX – Emo’s
19 กุมภาพันธ์ 2025 : Austin, TX – Emo’s
21 กุมภาพันธ์ 2025 : Dallas, TX – The Factory in Deep Ellum
22 กุมภาพันธ์ 2025 : Houston, TX – 713 Music Hall
23 กุมภาพันธ์ 2025 : Oklahoma City, OK – The Criterion
25 กุมภาพันธ์ 2025 : Fayetteville, AR – JJ’s Live
27 กุมภาพันธ์ 2025 : Atlanta, GA, – The Eastern
28 กุมภาพันธ์ 2025 : Atlanta, GA, – The Eastern
1 มีนาคม 2025 : Tampa, FL – Jannus Live
4 มีนาคม 2025 : Washington, DC – Echostage
6 มีนาคม 2025 : New York, NY – Terminal 5
7 มีนาคม 2025 : New York, NY – Terminal 5
8 มีนาคม 2025 : New York, NY – Terminal 5
9 มีนาคม 2025 : Boston, MA – Roadrunner
12 มีนาคม 2025 : Montreal, QC – MTELUS
13 มีนาคม 2025 : Toronto, ON – HISTORY
14 มีนาคม 2025 : Detroit, MI – Russell Industrial Center
15 มีนาคม 2025 : Chicago, IL – Radius
16 มีนาคม 2025 : Chicago, IL – Radius
4 เมษายน 2025 : Sydney, AUS – Roadhouse
5 เมษายน 2025 : Perth, AUS – Metro City
10 เมษายน 2025 : Adelaide, AUS – Hindley Street Music Hall